ทาวน์โฮม บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 Baan Klang Muang Sukhumvit 77

บ้านกลางเมือง สุขุมวิท 77 Stay Simple. Stay True. ทาวน์โฮมที่ผสมผสานความเรียบง่ายแต่สวยงาม ให้คุณค่าทุกรายละเอียดที่มากกว่าให้คุณหลุดออกจากความวุ่นวาย แล้วค้นพบสัจจะแห่งชีวิตความเรียบง่ายที่งดงาม ด้วยการดีไซน์แบบ Minimal Style 29-30 ส.ค.นี้ ฉลองปิดเฟส  ราคาเดียว 5.79 ล้าน*

ที่ตั้งโครงการ

ซอยอ่อนนุช 17 ถนนสุขุมวิท77 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร (ตรงข้ามหมู่บ้านปัญญา ติดกับหมู่บ้านเศรษฐีปาร์ค )

HOME TYPE

AP สบช่องว่างตลาด ประเดิมครึ่งปีหลัง แตกไลน์บ้านกลางเมือง จับตลาดพรีเมี่ยมชูจุดต่างเพิ่มพื้นที่และฟังก์ชั่น ประเดิมทำเลแรก “บ้านกลางเมือง พระราม 2″ กับแบบบ้านให่ล่าสุด X-TREND ขยายความสุขได้ดั่งใจ บนพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น เริ่ม 7-9 ล้านบาท พร้อมเปิดขาย 12-13 ก.ย. นี้

AP ตอกย้ำเจ้าตลาดทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้นในเมือง สบช่องว่างตลาดเดินหน้าขยายพอร์ตสินค้า ประเดิมตลาดครึ่งปีหลัง ส่งบ้านแนวคิดใหม่ภายใต้โมเดล X-TREND ลงจับตลาดพรีเมี่ยม ชูจุดต่างสร้างมูลค่าเพิ่มที่มากขึ้น ทั้งพื้นที่ใช้สอย ฟังก์ชั่นการใช้งานในแพ็ตเกจราคาที่คุ้มค่า ลั่นมั่นใจกำลังซื้อด้วยตัวเลขซัพพราย-ดีมานด์ไม่สอดคล้องกัน ปักธงทำเลแรก “บ้านกลางเมือง พระราม 2″ หนึ่งเดียวบนทำเลที่ดีที่สุดใจกลางพระราม 2 ราคาเริ่มต้น 7-9 ล้านบาท พร้อมเปิดขายวันที่ 12-13 กันยายนนี้

คุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เผยว่า ตลาดบ้านระดับพรีเมี่ยมบนโลเคชั่นในเมืองยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะดีมานด์บ้านแนวราบที่เป็นสินค้าเรียลดีมานด์ ที่ผ่านมา AP ได้พัฒนาบ้านแนวราบที่หลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่กลุ่มบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ จับเซกเมนต์ลูกค้าครอบครัวคนเมืองกลุ่มแมสจนถึงลักชัวรี่ และถ้ามองถึงส่วนแบ่งตลาดแนวราบของ AP ตลอดที่ผ่านมาจะพบว่า AP มีความโดดเด่นอย่างมากในตลาด

ทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้นในเมือง โดยครองส่วนแบ่งตลาดมากถึง 43% ดังนั้น AP จึงพร้อมนำความชำนาญในการพัฒนาที่อยู่อาศัย แตกไลน์สินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ บ้านกลางเมือง เพื่อเจาะตลาดครอบครัวในเมืองระดับ พรีเมี่ยมที่มองหาที่อยู่อาศัยที่มีระดับ พร้อมพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชั่นการใช้งานที่มากขึ้น แวดล้อมด้วยการเดินทางที่หลากหลาย (Multiple Connections) และในปีนี้ AP พร้อมเปิดตัวโครงการแรก บ้านกลางเมือง พระราม 2 ภายใต้คอนเซ็ปท์ บ้านแนวคิดใหม่ X – TREND ขยายความสุขได้ดั่งใจ บนพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น

ด้วยทำเลศักยภาพโซนพระราม 2 ที่สามารถเชื่อมต่อสู่ CBD อย่างสาทร – สีลม และ พระราม 3 ได้สะดวก ทำให้การแข่งขันที่ดุเดือดในทำเลดังกล่าว และจากการสำรวจซัพพลายพบเฉพาะบ้านเดี่ยว และ ทาวน์เฮ้าส์เท่านั้น โดยปัจจุบันไลฟ์สไตล์ครอบครัวคนเมืองยุคใหม่ หันมาเน้นประโยชน์จากพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น โดยไม่ต้องการพื้นที่สวนมากนัก ดังนั้นทาง AP จึงใช้ช่องว่างทางธุรกิจนี้ ต่อยอดพัฒนา บ้านแฝดในเมือง รวมจุดแข็ง เพิ่มฟีงก์ชั่นความเรียบหรูแบบบ้านเดี่ยว และ ขยายสเปซเต็มพื้นที่แบบทาวน์เฮ้าส์ ในแพ็คเกจราคาชายที่กลุ่มเป้าหมายมองหา และ สามารถจับต้องได้

โครงการบ้านกลางเมือง พระราม 2 ภายใต้โมเดล X-TREND เพิ่มคุณค่าทุกตารางนิ้วในบ้าน บนเนื้อที่ดิน 40 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 222 ตร.ม. หน้ากว้าง 11 เมตร 3 ชั้น 4 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ, 1 พื้นที่อเนกประสงค์ พร้อมที่จอดรถถึง 3 คัน มูลค่าโครงการ 380 ล้านบาท ด้วยความเป็นส่วนตัวสูงสุดเพียง 50 ยูนิต ระดับราคา 7-9 ล้านบาท

** ฟังก์ชั่นภายในบ้าน : ถูกจัดสรรพื้นที่ใช้สอยในบ้านแบบเต็มพื้นที่ ต้อนรับผู้มาเยือนด้วยส่วน Living Room ที่ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย เชื่อมต่อ Dinning Area แบะส่วนครัวถึงกันได้อย่างลงตัส พร้อมให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตร่วมกันของครอบครัวคนเมืองขนาดใหญ่ 2-3 เจเนอเรชั่น ด้วยห้องนอนชั้น 1  สำหรับผู้สูงอายุ ที่สามารถดัดแปลงเป็นห้องเอนกประสงค์ และ Triple Master Bedroom ห้องนอนพร้อม Walk in Closet และห้องน้ำในตัวทุกห้อง ที่ชั้น 2 และ 3 อีกทั้งยังเพิ่ม Multipilied Living Space ที่ชั้น 2 สามารถปรับฟังก์ชั่นพร้อมรองรับกิจกรรมของสมาชิกในครอบครัว

และสำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัท ณ ปัจจุบัน (15 สิงหาคม 58) บริษัทฯ มียอดขายที่สูงถึง 19,884 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 7,655 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 12,229 ล้านบาท สะท้อนได้ถึงศักยภาพของสินค้า ตลอดจนความเชื่อมั่นในการดำเนินงานของเอพี มีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) สูงถึง 13,540 ล้านบาท เป็นสินค้าแนวราบมูลค่า 3,620 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในครึ่งปีหลัง ส่วน Backlog คอนโดมิเนียมมูลค่า 9,920 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังประมาณ 4,227 ล้านบาท

ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเปิดตัวไปแล้วรวมทั้งสิ้น 9 โครงการ มูลค่ารวม 13,560 ล้านบาท เป็นแนวราบ 5 โครงการ และแนวสูง 4 โครงการ และสำหรับแผนการเปิดตัวโครงการในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 15 โครงการ มูลค่ารวม 24,020 ล้านบาท โดยเป็นคอนโดมิเนียมจำนวน 4 โครงการ มูลค่า 15,240 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์จำนวน 6 โครงการ มูลค่า 5,490 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวจำนวน 5 โครงการ มูลค่า 3,290 ล้านบาท

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการ บ้านกลางเมือง พระราม 2 กับแบบบ้านแฝดแนวคิดใหม่นี้ สามารถเข้าเยี่ยมชมโครงการได้แล้ววันนี้ พร้อมเปิดขายวันที่ 12-13 ก.ย. นี้

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ : คลิก

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : 1623, Websie : http://www.apthai.com/

พาชมโครงการ “บ้านกลางเมือง รัชโยธิน” Luxury Townhome กับทำเลและฟังก์ชั่นที่มากกว่า ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของครอบครัวคนเมือง  มา Move ชีวิตให้ติดเมือง กับสังคมคุณภาพ Private Zone เพียง 29 ยูนิตเท่านั้น 

สวัสดีค่ะ…วันนี้ Homenayoo ขอพาทุกท่านไปเยี่ยมชมโครงการ “บ้านกลางเมือง รัชโยธิน” Luxury Townhome จาก AP. โครงการคุณภาพใจกลางเมือง กับแบบบ้าน ICONIC ทาวน์โฮมหรูดีไซน์ใหม่ ที่เหนือกว่าทาวน์โฮมทั่วไป แสดงถึงเอกลักษณ์ที่โดดเด่น กับ Duplex Townhome 3 ชั้นครึ่ง ออกแบบสไตล์โมเดิร์น ทรอปิคอล ผสมผสานความเข้มขรึม หรูหรา และยังกลมกลืนไปกับธรรมชาติ บนพื้นที่ความสุข 20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยกว้างเกือบ 200 ตร.ม.

มาพร้อมฟังก์ชั่นพิเศษ Double volume ที่สูงโปร่ง โอ่อ่า ถึง 5.5 เมตร และ Mezzanine floor ที่ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามความต้องการ รวมถึงห้องน้ำในทุกห้องนอน และ ห้องเก็บของครบทุกชั้น ตอบโจทย์คนเมืองรุ่นใหม่อย่างแท้จริง รวมถึงที่จอดรถในบ้าน 2 คัน และด้านนอกอีก 1 คัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน

อาทิ Clubhouse ดีไซน์โมเดิร์น, ฟิตเนสเปิดมุมองกว้างรับวิวสวน, ห้องสมุดสุดหรู, สนามหญ้า * สวนสาธารณะขนาดใหญ่ ที่จัดไว้สำหรับพักผ่อน หรือ วิ่งออกกำลังกาย ครบครัน เดินทางสะดวก เชื่อมต่อถนนสายสำคัญได้หลากหลาย ใกล้ทั้งทางด่วน และ รถไฟฟ้าสายสีเขียวในอนาคต*

ข้อมูลโครงการ

แผนที่โครงการ

พิกัด (13.837031,100.580963)

การเดินทาง : บ้านกลางเมือง รัชโยธิน เดินทางสะดวก สามารถเข้า-ออกโครงการจากเส้นทางหลักทั้ง 3 เส้นทาง ดังนี้

1. เดินทางจากถนนพหลโยธิน เลี้ยวเข้าซอยพหลโยธิน 34 เพียง 700 เมตร ถึงโครงการ โดยบ้านกลางเมือง รัชโยธิน จะอยู่ทางขวามือ ติดกับคอนโด Low-Rise

2 เดินทางจากเกษตรนวมินทร์ (ประเสริฐมนูกิจ) เข้าซอยประเสริฐมนูกิจ 2 ผ่านสามแยกเลี้ยวขวาประมาณ 250 เมตรอยู่ทางซ้ายมือ

3. เดินทางจากแยกวังหิน ใช้เส้นถนนเสนานิคม 1 ข้ามคลองบางบัว ผ่านปั๊มน้ำมัน Esso เตรียมชิดขวาเข้าซอยเสนานิคม 1 แยก 11 ตรงมาเจอสามแยกเลี้ยวซ้ายค่ะ ถึงโครงการค่ะ

เส้นทางคมนาคม

– ใกล้ถนนพหลโยธิน (สามารถออกได้ทั้งซอย 32 และ 34), ถนนเกษตร – นวมินทร์ และ ลาดพร้าว-วังหิน

– ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ด่านดินแดง) หรือ ทางยกระดับอุตราภิมุข

– ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์

ทำเลที่ตั้งโครงการ

ทำเลที่ตั้งโครงการ : บ้านกลางเมือง รัชโยธิน ทาวน์โฮมหรูโซนพหลโยธิน เป็นโครงการขนาดเล็ก ให้ความเป็นส่วนตัวสูง ห้อมล้อมด้วยคอนโด Low-Rise พิเศษกว่า ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า ความสูงของตัวบ้าน 14.5 เมตร โปร่ง โล่ง และ ราคาที่สามารถจับต้องได้ เมื่อเปรียบเทียบกับราคาคอนโดโซนพหลโยธินในปัจจุบัน ที่เริ่มต้นที่ 90,000 – 100,000 บาท/ ตร.เมตร ขึ้นไป

เพื่อเป็นการตอบโจทย์การอยู่ทาวน์โฮมหรู ที่เติมเต็มชีวิตอย่างเหนือระดับ สำหรับครอบครัวคนเมืองได้อย่างครบสมบูรณ์แบบ ได้ใช้ชีวิตในทำเลใจกลางรัชโยธิน ซึ่งถือว่าเป็นทาวน์โฮมทำเลสุดท้ายใจกลางเมืองจากบ้านกลางเมือง ที่ทั้งใกล้รถไฟฟ้า และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย

สถานที่สำคัญโดยรอบ

เนื่องจากเป็นทำเลติดถนนเส้นหลัก อย่างพหลโยธิน และ รัชดาภิเษก เดินทางได้สะดวก ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้าสายสีเขียวในอนาคต รายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าชั้นนำ, ธนาคาร, ออฟฟิศ สำนักงานขนาดใหญ่, สถานศึกษา, แหล่งสถานบันเทิง, ร้านอาหาร, ศูนย์รวมไอที และ โรงพยาบาลชั้นนำ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโครงการ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ (สวนรถไฟ) มีเนื้อที่กว่า 375 ไร่ ทำให้โครงการนี้ เป็นทาวน์โฮมใจกลางเมือง สำหรับคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นวัยเด็ก, วัยเรียน, วัยทำงาน รวมถึง ผู้สูงอายุ ก็ตอบโจทย์ได้ครบครัน

ขนส่งสาธารณะและสถานที่สำคัญ

– MRT พหลโยธิน 3.6 กม.
– BTS หมอชิต 5 กม.
– สถานีรถไฟบางเขน 3 กม.
– สถานีขนส่งหมอชิต 6.8 กม.
– สวนจตุจักร 6.5 กม.
– สวนลุมไนท์ บาซ่าร์ รัชดาภิเษก 5 กม.

โรงพยาบาลใกล้เคียง

– โรงพยาบาลเมโย 700 ม.
– โรงพยาบาลวิภาวดี 2.8 กม.
– โรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 1.6 กม.

โรงเรียนใกล้เคียง

– โรงเรียนสมิทธโชติ 1 กม.
– โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 4.3 กม.
– โรงเรียนสารวิทยา 3 กม.
– โรงเรียนหอวัง 4.7 กม.

มหาวิทบาลัยใกล้เคียง

– มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 1.6 กม.
– มหาวิทยาลัยศรีปทุม 3.3 กม.
– มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม 3.3 กม.
– มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น 5 กม.

ห้างสรรพสินค้า

– ท็อปส์ ซุปเปอร์คุ้ม 1.2 กม.
– ออฟฟิศ เมท 1.2 กม.
– เมเจอร์ รัชโยธิน 2.4 กม.
– อเวนิว รัชโยธิน 2.4 กม.
– นวมินทร์ ซิตี้ อเวนิว 5.3 กม.
– เดอะวอล์ค เกษตร – นวมิทร์ 6.8 กม.
– เทสโก้ โลตัส ลาดพร้าว 3 กม.
– เทสโก้ โลตัส เอกมัย – รามอินทรา 10.7 กม.
– เซ็นเทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว 4.5 กม.
– เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสท์วิลล์ 10.7 กม.
– ยูเนี่ยน มอลล์ 3.6 กม.
– โฮมโปร เอกมัย – รามอินทรา 8.3 กม.
– คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ ( CDC ) 9.6 กม.
– คริสตัล ปาร์ค 8.2 กม.

HOUSE TYPE

บ้านกลางเมือง รัชโยธิน | ทาวน์โฮมที่เป็นมากกว่าทาวน์โฮม กับทำเลและฟังก์ชั่นที่มากกว่า ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว

ซุ้มทางเข้า-ออกโครงการ ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ทรอปิคอล ใช้โทนสีเอิร์ธโทน ที่สะท้อนถึงธรรมชาติ ตกแต่ง Pocket Garden ด้านหน้า พร้อมรูปปั้นดีไซน์หรูหราสวยงาม

ทางเข้า-ออกโครงการ กั้นประตูรั้วบานเลื่อนอัตโนมติ พร้อมติดตั้งกล้อง CCTV จับป้ายทะเบียนรถยนต์ และ ที่ด้านหน้าคนขับฝั่งละ 2 ตัว

พื้นถนนด้านหน้า Stamp Concrete สีโทนเข้ม สวยงาม ดูหรูหรา

ถนนเมนโครงการกว้าง 12 | บรรยากาศภายในโครงการเป็นส่วนตัว มีพื้นที่ส่วนกลาง แบบบ้านล้อมสวน

Clubhouse พร้อมสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ตกแต่งหญ้าสนาม และ ต้นไม้ใหญ่ ให้ความร่มรื่น เขียวขจี และน่าพักผ่อน

อาคาร Clubhose ออกแบบโมเดิร์น ทันสมัย สลับกับระแนงไม้ ให้กลมกลืนกับบรรยากาศธรรมชาติ พร้อมจัดซุ้มพักผ่อนในสวน ให้ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด

สระว่ายน้ำ Infinity Edge Pool ขนาดกำลังดี พื้นสระว่ายน้ำปูด้วยกระเบื้องโมเสกสีฟ้า สลับกับขอบสระแกรนิตสีดำ ดูเข้ากันดี

ด้านบนอาคาร เป็นห้องออกกำลังกาย และ ห้องสมุด

บรรยากาศภายในห้องสมุด ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ สลับหน้า TOP และ ขอบประตูสีดำ ดูหรูหรา และ สบายตา

สามารถนั่งเล่น นั่งอ่านหนังสือ หรือ จัดประชุดเล็ก ๆ ได้กำลังดี

ห้องออกกำลังกาย กั้นกระจกใส พร้อมเครื่องเล่นครบครัน เปิดรับวิวทิวทัศน์ด้านนอกได้เต็มตา ออกกำลังกายสบายใจ สบายอารมณ์

มองจากห้องออกกำลังกายลงมา บรรยากาศสวนสาธารณะ เขียวขจีไปด้วยพื้นหญ้า และ ต้นไม้ใหญ่ สดชื่นมาก ๆ

บรรยากาศภายใน Private Zone สังคมคุณภาพ เพียง 29 ยูนิต ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว หลีกเลี่ยงจากการวุ่นวายภายในเมือง สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

บ้านกลางเมือง รัชโยธิน ที่ถูกห้อมล้อมด้วยคอนโด Low Rise มองดูแล้ว ยังโดดเด่น และ โปร่งโล่งหน้าพักผ่อนที่สุด

บ้านกลางเมือง รัชโยธิน Duplex ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น บนเนื้อที่ดิน 50 ตร.วา มาพร้อมพื้นที่ใช้สอยถึง 193 ตร.ม. | 3 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน ฟังก์ชั่นการใช้งานของบ้าน ออกแบบจากผลสำรวจ จนสุดท้ายก็ได้เป็นแบบบ้าน Iconic เพื่อรองรับการอยู่อาศัยที่แท้จริง ดีไซน์ของบ้านถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันสไตล์โมเดิร์น ทรอปิคอล

โดยใช้สีภายนอกแบบเอิร์นโทน ให้ความรู้สึกอบอุ่น แข็งแรง และ โมเดิร์น หรูหราไปในตัว รวมถึงตัวบ้านที่ 14.5 เมตร ที่ภายในมาพร้อมกับ Mezzanine floor และ Double Volume ที่สูงโปร่งถึง 5.5 เมตร เมื่อเปรียบเทียบกับคอนโด Lowrise 8 ชั้น ความสูงของบ้านกลางเมือง รัชโยธิน ก็แทบจะเสมอเท่าเทียมกันเลยทีเดียว*

ทางเข้าบ้านตัวอย่าง ตกแต่งพื้นหน้าบ้านด้วยหินธรรมชาติ สลับสีดูสวยงาม ล้อมรอบด้วยต้นไม้แนวสูง สลับกับฟาสาดไม้ เล่นระดับกลมกลืน กับธรรมชาติ โดยประตูเข้าบ้านแบบกระจกเขียวตัดแสง บานใหญ่ ซึ่งจะช่วยให้ภายในบ้านดูโปร่ง โล่ง ออกแบบให้ได้รับแสงธรรมชาติ ได้มากที่สุด

เปิดรับลมธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ประหยัดพลังงาน ตามแบบฉบับ Smart Home บ้านของคนรุ่นใหม่ รวมถึงคำนึงถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัย มีห้องเก็บของหน้าบ้าน เหมาะสำหรับเก็บอุปกรณ์ล้างรถ หรือ จะปรับเปลี่ยนเป็นห้องอเนกประสงค์ได้ตามความต้องการ

เมือเดินเข้ามาภายในตัวบ้าน จะพบกับ Double Volume Space ที่สูงถึง 5.5 เมตร ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง มองขึ้นไปด้านบนเป็น Mezzanine floor ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานได้ตามต้องการ โดย Living Area เชื่อมต่อกับ ส่วนรับประทานอาหาร และ ห้องครัว ที่ถูกปิดกั้นด้วย Tempered Glass เป็นสัดส่วน และด้านในสุดเป็นพื้นที่ซักล้างขนาดมาตรฐาน

เสริมการตกแต่งส่วน Living Area ให้สัมผัสถึงความอบอุ่น ผ่อนคลาย ด้วยชุดเฟอร์นิเจอร์เก๋ ๆ และของตกแต่งบ้านที่สวยหรู สลับกับผนังไม้เล่นระดับ ดูกลมกลืน ผสมผสานความเป็นโมเดิร์น กับธรรมชาติ ให้เข้ากันอย่างไม่มีที่ติ

ส่วนรับประทานอาหาร ตกแต่งโต๊ะทานข้าวโทนสีขาว สลับเก้าอี้ไม้ นั่งทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตาได้ครบทั้งครอบครัว

สำหรับพื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร อยู่ติดกับห้องครัว ถูกกั้นพื้นที่ได้อย่างเป็นสัดส่วน ด้วยประตู Tempered Glass บานเลื่อน

ภายในห้องครัวถูกตกแต่งด้วยชุดครัวแบบบิวท์อิน ดีไซน์สวยหรู พร้อมตู้และอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวไว้อย่างครบครัน เว้นช่องสำหรับวางตู้เย็นได้เป็นสัดส่วน พร้อมหน้าต่างกระจกบานเลื่อน ช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติ ทำให้ภายในห้องครัวไม่ดูทึบ และ อึดอัด รวมถึงยังสามารถเปิดเพื่อระบายอากาศ กลิ่นจากการทำอาหาร ออกไปสู่พื้นที่ซักล้างด้านนอกได้อีกด้วย

ส่วนห้องน้ำชั้นล่าง ขนาดกระทัดรัด ปูพื้นและผนังด้วยกระเบื้องโทนสีขาว สลับกระเบื้องลายโมเสกให้ดูมีมิติสวยงาม รวมถึงสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำเกรดพรีเมียมจาก Cotto

พื้นที่หลังบ้านขนาดใหญ่ กว้าง 5 เมตร ลึก 2 เมตร มาตรฐาน ปูพื้นหญ้าสนาม สลับหินตกแต่งทางเดิน สวยงาม ร่มรื่นด้วยต้นไม้แนวสูง สลับกับฟาสาดไม้ มีระดับ รั้วโครงการสูงปลอดภัย

ขึ้นไปดูกันต่อที่ Mezzanine floor | บันไดบ้านคอนกรีตเสริมเหล็ก วัสดุไม้จริง พิเศษด้วยหน้าบันได ที่กว้างถึง 1.1 เมตร ทำให้การเดินขึ้น-ลง สะดวก และ ปลอดภัย พร้อมตกแต่งด้วยราวกระจก Tempered สีดำ ราวจับสเตนเลส เพื่อให้กลมกลืนกับดีไซน์และเฟอร์นิเจอร์ของบ้าน ดูสวยงาม ในทุกมุมมอง

พื้นที่ Mezzanine floor ถูกออกแบบให้เป็นห้องทำงาน จัดชุดโต๊ะทำงานโทนสีเทา สลับเก้าอี้สีแดง พร้อมบิวท์อินโซฟา สำหรับนั่งพักผ่อน พิเศษด้วยห้องเก็บของ ที่ทางโครงการจัดให้ครบทุกชั้น รองรับการใช้งานได้อย่างแท้จริง

เชื่อมต่อกับ Living Area ชั้นล่างได้ ช่วยให้ความรู้สึกของคนในบ้านไม่ห่างกัน และได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น รวมถึงยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกบ้านได้อย่างเต็มตา

ขึ้นไปต่อกันที่ชั้น 2 | บริเวณโถงบันได มีบานกระจก เปิดรับแสงธรรมชาติ ช่วยให้ทางเดินขึ้น-ลง ปลอดโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด พร้อมราวจับบันได เพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็ก และ ผู้สูงอายุ

บริเวณชั้น 2 เป็น Master Bedroom ปูพื้นไม้ลามิเนตโทนสีอ่อน พร้อม Walk-in storage เอาใจคนรักการเก็บของแบรนด์เนม, เครื่องประดับ สามารถเพิ่มชั้น หรือ บิวท์อินเป็น Walk-in storage ในสไตล์ของเราเองได้อย่างเต็มที่

Master Bedroom ขนาดใหญ่ถึง 25 ตร.ม. ถือว่าได้ขนาดห้องเทียบเท่ากับ 1 Bedroom ของคอนโดทั่วไป โดยเมื่อเราเดินเข้ามา ส่วนแรกตกแต่งเป็น Walk-in storage เช่นเดียวกัน สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามความต้องการ

บรรยากาศภายในห้องนอน เพดานสูงโปร่ง 2.5 เมตร ถูกออกแบบให้อารมณ์แบบคอนโด ที่ครบครันทุกการใช้สอย ตกแต่งโทนสีอ่อน วางเฟอร์นิเจอร์ไม้ สลับของตกแต่งบ้านสีส้ม สามารถวางเตียงนอนขนาด King Size ได้พอดี แถมยังเหลือพื้นที่ให้เดินเข้า-ออก ข้างเตียงและปลายเตียงได้สะดวก

ภายใน Master Bedroom คุณจะได้ระเบียงส่วนตัว กั้นประตูกระจกขอบอลูมิเนียมเกรดพรีเมียม เปิดกว้างรับวิวทิวทิศน์จากด้านนอกได้เต็มที่

พื้นที่ระเบียงไม่ใช่แค่ระเบียงทั่วไป ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้งานได้จริง ปูพื้นกระเบื้องให้เรียบร้อย ง่ายต่อการทำความสะอาด ติดตั้งก็อกสนามสำหรับซักล้าง พร้อมต่อท่อระบายน้ำทิ้งให้เรียบร้อย ขนาดระเบียงหน้ากว้าง 5 เมตร ลึก 0.9 เมตร สามารถวางชุดรับแขกเล็ก ๆ เพื่อออกไปนั่งจิบกาแฟ หรือ ชมวิวธรรมชาติ

วิวทิวทัศน์ภายนอก ร่มรื่น สบายตา จะเห็นได้เลยว่า ความพิเศษของบ้าน ที่สูงเกือบเทียบเท่าคอนโด Low Rise ทั่วไป ช่วยให้อารมณ์และความรู้สึกของผู้อยู่อาศัย โปร่งโล่ง และ อยู่อาศัยได้สบายอย่างแท้จริง

นอกจากนั้นภายใน Master Bedroom ยังจัดสรรปันส่วนพื้นที่ได้อย่างลงตัว มีส่วน Walk-in Closet เอาใจคุณผู้หญิงอีกหนึ่งมุม

Walk-in Closet เชื่อมต่อสู่ห้องน้ำขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยตู้เสื้อผ้ากระจก Tempered สีดำ สลับขอบประตูสเตนเลสสีเงิน สวยหรู ดูคลาสสิค และสามารถใช้งานได้จริง

ภายในห้องน้ำถูกออกแบบเพื่อตอบรับการใช้งานอย่างแท้จริง สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำเกรดพรีเมียมของ Cotto ตกแต่งเรียบง่าย แต่หรูหรา ด้วยสีเทา – ดำ สลับกับพื้นห้องน้ำ และ สุขภัณฑ์สีขาว ทำให้ดูมิติ และ น่าใช้งานมากยิ่งขึ้น

แบ่งการใช้งานส่วนแห้ง และ แยกกส่วนอาบน้ำให้ครบครัน บริเวณเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า ใช้เป็น TOP หินแกรนิตสีดำ แข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน เอาใจสาว ๆ ด้วยกระจกส่องหน้าบานใหญ่ครบครัน มีการเว้นพื้นที่สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำให้เรียบร้อย  คำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานของผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง

ส่วนอาบน้ำ เดินระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้เรียบร้อย ชุดฝักบัวมอบให้แบบพรีเมียม มีทั้งแบบ Rain Shower อาบผ่อนคลาย สบายตัว และ Hand Shower อาบสะอาดครบชุด

สำหรับพื้นที่ชั้น 3 มีทั้งหมด 2 ห้องนอน เป็นส่วนตัวด้วยห้องน้ำในตัวทุกห้องนอน

ห้องนอน 2 | พื้นที่ขนาด 25 ตร.ม. จัดพื้นที่ Walk in Closet กั้นประตูกระจกบานเลื่อนเป็นส่วนตัว ขวามือบิวท์อินตู้เสื้อผ้าบานกระจก Tempered กว้างสุดผนัง ทั้งยังเชื่อมต่อกับห้องน้ำได้อย่างสะดวก

ภายในห้องน้ำจัดชุดสุขภัณณ์แบบพรีเมียม แบ่งส่วนแห้ง ติดตั้งกระจกส่องหน้าบานใหญ่ และ ส่วนอาบน้ำ ยกพื้นต่างระดับกันน้ำออกให้เรียบร้อย พื้นและผนังห้องน้ำปูกระเบื้องเล่นสีและลายได้อย่างสวยงาม

เข้ามาในส่วนพักผ่อน สำหรับห้องนอน 2 ถูกออกแบบโดยใช้กระจก ทำให้ได้วิวมุมกว้าง เปรียบเสมือนอยู่คอนโด ทั้งยังช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติได้ดี ในช่วงเวลากลางวัน แทบจะไม่ต้องใช้ไฟฟ้าเสียด้วยซ้ำ รวมถึงยังช่วยให้ห้องดูโปร่ง สว่าง ไม่อึดอัด ช่วงกลางคืนสามารถเปิดม่าน เปลี่ยนเป็นห้องดูดาวได้ โรแมนติกสุด ๆ ค่ะ

เตียงนอนภายในห้อง ถูกตกแต่งด้วยโทนสีเข้มแบบเรียบง่าย สลับกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์ทรอปิคอล ลงตัว กลมกลืนดี รวมถึงจัดพื้นที่ข้างเตียง สำหรับนั่งเล่นดูทีวี ครบทุกฟังก์ชั่นบนพื้นที่เดียวเลยค่ะ

ปายเตียงถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้บิวท์อิน เล่นระดับสวยงาม ติดตั้งตู้แขวนลอย และ ตู้เก็บของ รวมถึงจัดชุดโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมติดกระจกบานใหญ่ให้เรียบร้อย

ส่วนอีกห้อง ถูกตกแต่งเป็นห้องทำงาน โทนสีเข้ม วางเฟอร์นิเจอร์ไม้สลับกัน เพื่อไม่ให้ห้องดูมืด และ ขรึมจนเกินไป เปิดรับแสงและลมธรรมชาติ ได้ด้วยกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทั้งยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ฝั่งหน้าโครงการได้อย่างเต็มตา

ภายในห้องน้ำก็เช่นเดิม ถูกออกแบบและจัดฟังก์ชั่นการใช้งานได้อย่างลงตัว พร้อมชุดสุขภัณฑ์ที่คัดสรรมาอย่างดี แข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน มาตรฐานของบ้านกลางเมืองเลยค่ะ

โดยรวมแล้ว “บ้านกลางเมือง รัชโยธิน” ถือได้ว่าเป็นหนึ่งโครงการคุณภาพของ AP ที่น่าสนใจมาก ด้วยทำเลและศักยภาพโดยรอบที่อยู่ในเมือง โซนพหลโยธิน รอบล้อมด้วยสถานที่สำคัญมากมาย ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยทุกช่วงอายุ บรรยากาศโดยรอบโครงการ มีผู้คนสัญจรผ่านตลอดทั้งวัน ในเรื่องของความปลอดภัย สบายใจได้เลย รวมถึงในอนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่ พาดผ่านโครงการ ทำให้ราคาที่ดินโซนนี้ จะขยับสูงขึ้นอย่างแน่นอน

ในเรื่องของ Product วัสดุและตัวบ้าน Duplex Towmhome สไตล์โมเดิร์น ทรอปิคอล เลือกใช้สีเอิร์ธโทน ดูเข้มขรึม และ ทันสมัย เอาใจคนรุ่นใหม่ ที่ทำงานในเมือง แต่ต้องการเพิ่มพื้นที่การอยู่อาศัยให้มากขึ้น ในราคาที่ยังสามารถจับต้องได้ เมื่อเปรียบเทียบโครงการ คอนโด หรือ ทาวน์โฮมในโซนนี้ ด้วย Private Zone ที่มีเพียง 29 หลัง และตัวบ้านที่สูงถึง 14.5 เมตร ทำให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการ รู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว ร่มรื่น และ เงียบสงบ เหนื่อยจากการทำงาน ก็สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

สำหรับแบบบ้านของโครงการนี้ คือ ICONIC ตั้งอยู่บนที่ดิน 20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 193 ตร.ม. ขนาด 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ (พร้อมห้องน้ำในห้องนอนครบทุกห้อง) ที่จอดรถ 2 คัน พิเศษ! ด้วย Double Volume ที่สูงถึง 5.5 เมตร เปิดโล่ง รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ รวมถึง Mezzanine floor ที่ปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามความต้องการ รวมถึงยังเชื่อมต่อความสัมพันธ์ของคนในบ้านได้ดีอีกด้วย นอกจากนั้นยังเอาใจผู้อยู่อาซัย ด้วยห้องเก็บของครบทุกชั้น เริ่มตั้งแต่หน้าบ้าน, Mezzanine floor, ชั้น 2 และ ชั้น 3 ครบครัน

รวมถึงวัสดุที่ได้แบบพรีเมียม โครงการคัดสรรวัสดุที่ดีที่สุด รองรับอายุการใช้งานได้ยาวนาน ใส่ใจในรายละเอียดของโครงการสร้าง ผนัง กระจกแบบ Tempered แข็งแรง และดูโมเดิร์น และพื้นที่สำหรับบิวท์อิน หรือ การวางเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ให้ลงตัวในทุกตารางเมตร สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เลือกใช้ของ Cotto เพิ่ม TOP หินแกรนิต ขนาดใหญ่ เต็มที่พื้นที่ ชุดฝักบัวคู่ ที่คุณจะได้ทั้ง Rain Shower และ Hand Shower รวมถึงใส่ใจในรายละเอียด การใช้งาน มีการเว้นพื้นที่สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ ทำให้ผู้อยู่อาศัย ไม่ต้องติดตั้งชั้นเพิ่มเติมเข้าไปเลย

นอกจากนั้นภายในโครงการยังมี Clubhouse พร้อมสระว่ายน้ำ, ห้องฟิตเนส ที่เปิดรับวิวสวนพักผ่อนได้เต็มตา รวมถึงห้องสมุด – ห้องอเนกประสงค์ สำหรับนั่งเล่น หรือ นั่งอ่านหนังสือ รวมถึงพื้นที่สวนสาธารณะ สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ มีการจัดซุ้มพร้อมชุดเก้าอี้พักผ่อน ให้ลูกบ้านได้พักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติที่สุดอีกด้วย

เรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย โครงการก็ใส่ใจรายละเอียดทุกส่วนใช้ระบบ Access Card เข้า – ออกโครงการ พร้อมป้อมรปภ. ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ติดตั้งกล้อง CCTV ที่ทางเข้า-ออก และตามจุดต่าง ๆ ในโครงการะบบสายไฟฟ้าปักเสาพาดสาย ตามแบบมาตรฐานการไฟฟ้านครหลวง และ ระบบท่อเมนประปา ตามแบบมาตรฐานการประปานครหลวงค่ะ

** โครงการนี้จึงเหมาะมาก สำหรับคนรุ่นใหม่, คู่รัก หรือ คนทำงานในโซนพหลโยธิน-รัชดาภิเษก, เสนานิคม ที่รักการใช้ชีวิตอยู่ในเมือง เป็นพนักงานหรือเจ้าของกิจการ ที่ยังต้องทำงานในโซนนี้ ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก ตอบโจทย์ทุกคน ทุกระดับอายุในบ้าน งบประมาณ 7-10 ล้านบาท

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาเยี่ยมชม “บ้านกลางเมือง รัชโยธิน” Private Zone ได้แล้วที่โครงการ เชิญสัมผัสกับทาวน์โฮมที่มากกว่าทาวน์โฮม บนทำเลศักยภาพโซนพหลโยธิน ในราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษมากมาย ติดต่อได้ที่ Sale Gallery เลยค่ะ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

TEL : 02-941-7888

WEBSITE : http://www.apthai.com/

บ้านเดี่ยว พลีโน่ เพชรเกษม 112 Pleno Petchakasem 112

“Pleno เพชรเกษม 112″ เตรียมพบบ้านเดี่ยว แนวคิดใหม่ โครงการใหม่ เร็วๆนี้ เพียง 70 ครอบครัว บนทำเลศักยภาพ ราคาเริ่มต้น 3.79 ล้าน*

แผนที่โครงการ

ซอยเพชรเกษม 112 ถนนเพชรเกษม แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม 10160

สำหรับผู้ที่สนใจโครงการสามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่นี่

คลิก เพื่อลงทะเบียน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 1623/ 02-261-2518

WEBSITE : http://www.apthai.com/

“บ้านกลางเมือง พระราม 2” บ้านแนวคิดใหม่ บนทำเลที่ดีที่สุด  เปิดจองครั้งแรก 12-13 ก.ย.นี้

พบบ้านแนวคิดใหม่ โดดเด่นด้วยทำเลศักยภาพย่านธุรกิจใจกลางพระราม 2  สนองทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยตามแบบฉบับคนเมือง ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ใกล้เซ็นทรัลและทางด่วน ที่ “บ้านกลางเมือง พระราม 2” บ้านแนวคิดใหม่ ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด Multiplied Space ขยายพื้นที่ความสุขให้กับทุกคนในครอบครัว ประกอบด้วย 5 ห้องนอน ที่จอดรถ 3 คัน พร้อมสเปซที่ตอบรับทุกไอเดียสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มรูปแบบ

ด้วยฟังก์ชั่นที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ตอบโจทย์ความเป็นตัวตนของคุณและครอบครัวได้มากกว่าเคย พร้อมสัมผัสถึงรสนิยมที่เหนือกว่าด้วยการออกแบบและตกแต่งบ้านในสไตล์ Modern Classic ด้วยการใช้เส้นสายที่ผสานความเรียบหรูและเรียบง่ายไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พิเศษ 12-13 ก.ย.นี้ เปิดจองครั้งแรก ราคาพรีเซล 6.99 ล้าน

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ คลิก : www.apthai.com/ทาวน์โฮม/บ้านกลางเมือง/บ้านกลางเมือง-พระราม-2/

แผนที่

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.1623 หรือทางเว็บไซต์ www.apthai.com

BC ชี้ครึ่งปีแรกตลาดคอนโดฯ มือสอง ไปได้สวย โซนพญาไทครองแชมป์ราคาเฉลี่ยสูงสุด คาดครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง มั่นใจดีมานด์ยังสูงผกผันกับภาวะเศรษฐกิจ

กรุงเทพ ซิตี้สมาร์ท เผยตลาดคอนโดมิเนียมมือสองช่วงครึ่งปีแรกปี 2558 เติบโตได้ดี สะท้อนกำลังซื้อของผู้บริโภคที่มีอย่างต่อเนื่อง มีการปรับขึ้นของราคาขายเฉลี่ยมากถึงร้อยละ 30 แต่ยังคงต่ำกว่าราคาซื้อขายคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ที่ปรับขึ้นร้อยละ 40 โดยคอนโดมิเนียมที่มีอายุ 6-10 ปี มีอัตราการปรับตัวของราคาเฉลี่ยดีที่สุด จากต้นทุนการก่อสร้างเดิมที่ไม่สูงมากเท่าปัจจุบัน พบคอนโดมิเนียมโซนพญาไท ราชเทวี อนุเสาวรีย์ มีราคาขายเฉลี่ยสูงสุด คาดครึ่งปีหลังยังคงเติบโตได้ดี จากความต้องการคอนโดมิเนียมมือสองที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนในเมืองที่มีพื้นที่ในการพัฒนาที่ค่อนข้างจำกัด

ภาพรวมสถานการณ์ตลาดคอนโดฯ มือสองครึ่งปีแรก 2558 ไปได้ดี

ขยล ตันติชาติวัฒน์ ผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพ ซิตี้สมาร์ท จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ครอบคลุมทุกเรื่องการ ซื้อ ขาย เช่า และลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมมือสองในกรุงเทพฯ ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 ว่า “ยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า สะท้อนจากราคาซื้อขายของตลาดคอนโดฯ มือสองทั้งตลาดในกรุงเทพฯ ปรับเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยมากถึงร้อยละ 30

จากราคาซื้อขายช่วงเปิดตัวโครงการนั้นๆ แต่ยังคงต่ำกว่าราคาคอนโดฯ เปิดใหม่ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างถึงร้อยละ 40 จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตลาดคอนโดฯ มือสองยังได้รับความสนใจจากลูกค้าที่ต้องการซื้อเอาไว้อยู่อาศัยเองหรือมองหาโอกาสในการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการคอนโดฯ ที่อยู่ในทำเลใจกลางเมืองใกล้สถานีรถไฟฟ้า ที่ปัจจุบันมีพื้นที่เหลืออยู่อย่างค่อนข้างจำกัดแล้ว”

สำหรับคอนโดฯ มือสองที่มีการปรับเปลี่ยนของราคาขายเฉลี่ยเทียบกับราคาเปิดตัวโครงการสูงสุด ได้แก่ คอนโดฯ ที่มีอายุของตัวอาคารอยู่ระหว่าง 6-10 ปี เนื่องจากในช่วงเวลาเปิดตัวของโครงการยังไม่มีการขยับของต้นทุนการก่อสร้างสูงมากนัก โดยเฉพาะราคาที่ดิน แต่ตัวโครงการตั้งอยู่ในบริเวณที่ใกล้แนวรถไฟฟ้า เดินทางสะดวก ประกอบกับมีการดูแลรักษาอาคารที่ค่อนข้างจะชัดเจน จึงสามารถปรับราคาซื้อขายเพิ่มขึ้นตามโครงการใหม่ในบริเวณนั้นๆ ได้ไม่ยาก

โดยมีราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 48 อันดับรองลงมา ได้แก่ คอนโดฯ มือสองที่มีอายุอาคารตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป แม้สภาพอาคารอาจจะขาดการบำรุงรักษาไปบ้าง แต่เนื่องจากอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ และหาทำเลที่จะมาแทนที่ได้ลำบาก โดยมีราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 38 อันดับถัดมา เป็นโครงการคอนโดฯ สร้างเสร็จ

พร้อมอยู่ อายุอาคารตั้งแต่ 1-5 ปี ซึ่งสภาพโดยรวมยังดูใหม่อยู่ โดยมีราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 33 สาเหตุที่ราคาขายปรับตัวขึ้นได้น้อยที่สุดนั้น เนื่องจากคอนโดฯ กลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นแล้วนั่นเอง แต่เพราะตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมากจึงทำให้ลูกค้ายินดีที่จะจ่ายส่วนต่างของทำเล

และอันดับสุดท้าย เป็นกลุ่มคอนโดฯ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ยังไม่พร้อมเข้าอยู่อาศัย แต่มีการเปลี่ยนมือโอนสิทธิ์ ขายใบจองสิทธิ์ ราคาเฉลี่ยจึงปรับเพิ่มขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากราคาเปิดขายได้รวมต้นทุนการก่อสร้างที่ปรับขึ้นใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 16

พญาไท ราชเทวี และ อนุสาวรีย์ ครองแชมป์ราคาเฉลี่ยปรับตัวขึ้นสูงสุด

ทั้งนี้เมื่อพิจารณาถึงทำเลในแต่ละพื้นที่ พบว่าทำเลที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาขายเฉลี่ยของคอนโดฯ มือสองในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 เทียบกับราคาช่วงเปิดตัวโครงการมากที่สุด ได้แก่ บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS พญาไท ราชเทวี และ อนุเสาวรีย์ ที่เป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางสู่จุดหลักๆ ที่สำคัญของกรุงเทพมหานคร

ซึ่งในปัจจุบันโซนดังกล่าวถือเป็นอีกโซนที่มีที่ดินที่สามารถนำมาพัฒนาโครงการได้จำกัดแล้ว โดยมีการปรับเปลี่ยนของราคาขายในตลาดปัจจุบันเทียบกับราคาช่วงเปิดตัวโครงการเฉลี่ยสูงสุด ร้อยละ 43 รองลงมา ได้แก่บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ และทองหล่อ ถือเป็นบริเวณที่มีความต้องการจากกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ

โดยมีการปรับเปลี่ยนของราคาขายในตลาดปัจจุบันเทียบกับราคาช่วงเปิดตัวโครงการเฉลี่ยสูงสุด ร้อยละ 36 และ บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS เอกมัย และพระโขนง มีการปรับเปลี่ยนของราคาขายในตลาดปัจจุบันเทียบกับราคาช่วงเปิดตัวโครงการเฉลี่ยสูงสุด ร้อยละ 35 ตามลำดับ

แนวโน้มสถานการณ์ตลาดคอนโดมิเนียมมือสอง ช่วงครึ่งปีหลัง 2558

สำหรับแนวโน้มของตลาดคอนโดมิเนียมมือสอง “หากย้อนไปดูช่วงหลายปีที่ผ่านมา (ปี 2553-2556)  พบว่าตลาดคอนโดมิเนียมมีการเปิดตัวใหม่จำนวนมาก เฉลี่ยถึงปีละ 50,000-70,000 ยูนิต/ปี คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 60 ของที่อยู่อาศัยทั้งหมดในกรุงเทพ (อ้างอิงข้อมูลจาก AREA) แต่ทำเลที่ตั้งเริ่มกระจายออกจากกรุงเทพฯ ชั้นในไปอยู่ในบริเวณกรุงเทพฯ ชั้นกลาง ชั้นนอก รวมถึงปริมณฑล

เนื่องจากบริเวณดังกล่าว ยังมีพื้นที่ที่สามารถพัฒนาที่อยู่อาศัยได้ และต้นทุนของที่ดินยังปรับตัวไม่สูงมากนัก อีกทั้งการพัฒนาในด้านระบบสาธารณูปโภค และสาธารณูปการต่างๆ ในปัจจุบันได้กระจายตัวออกสู่บริเวณรอบนอกกรุงเทพฯ แล้วเช่นกัน ในส่วนบริเวณกรุงเทพฯ ชั้นในกลับพบว่า สัดส่วนในการเปิดตัวคอนโดฯ มีจำนวนน้อยมากถ้าเทียบกับสัดส่วนการเปิดตัวคอนโดฯ ในแต่ละปีที่ผ่านมา (ปี 2553-2556)   คิดเป็นอัตราเฉลี่ยไม่เกินร้อยละ 18 ของการเปิดตัวคอนโดฯ ทั้งหมดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล” นายขยลกล่าว

“โดยสรุป ทำให้คาดการณ์ได้ว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2558 ตลาดคอนโดมิเนียมมือสองยังคงจะเติบโตไปได้ดี แม้ภาวะเศรษฐกิจในประเทศจะอยู่ในช่วงการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่คงส่งผลกระทบต่อตลาดคอนโดฯ มือสองไม่มากนัก เนื่องจากตลาดคอนโดฯ มือสองยังคงมีความต้องการของผู้บริโภคอย่างชัดเจน โดยเฉพาะคอนโดฯ ที่อยู่บนทำเลที่มีศักยภาพ อย่างกรุงเทพฯ ชั้นในที่มีพื้นที่ที่สามารถพัฒนาโครงการได้เหลืออยู่อย่างจำกัด ทำให้ราคาขายเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั่นเอง” นายขยล กล่าวปิดท้าย

พลีโน่ ราชพฤกษ์-ท่าน้ำนนท์ Pleno Ratchapruek-Thanamnon โครงการใหม่จาก AP* เริ่ม 4.69 ล้านบาท

เตรียมพบกับ Pleno ราชพฤกษ์ – ท่าน้ำนนท์ โครงการใหม่จาก AP “บ้าน” 4 ห้องนอน 2 ที่จอดรถ ใหม่ล่าสุด พร้อม Clubhouse ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า
เริ่ม 4.69 ล้านบาท 

>> ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลด 10,000* <<

คลิก เพื่อลงทะเบียน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 1623

WEBSITE : http://www.apthai.com/

AP ปลื้มกวาดยอดขายเปิดโครงการใหม่ The City นวมินทร์  พรีเซล 2 วัน กวาด 200 ล้านบาท

คุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เผยว่า ดีมานด์สินค้าบ้านเดี่ยวระดับพรีเมี่ยมยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าครอบครัวเรียลดีมานด์ระดับบนที่ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยจริง แต่ทั้งนี้ “ทำเล” จะต้องมีศักยภาพ ใกล้ระบบโครงข่ายคมนาคมที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางได้อย่างหลากหลาย

ล่าสุด (19 – 20 ก.ย. ที่ผ่านมา) AP ได้สร้างปรากฎการณ์ปลุกกระแสตลาดบ้านเดี่ยวอีกครั้งกับการเปิดขายรอบพิเศษโครงการ The City นวมินทร์ บ้านเดี่ยวพรีเมี่ยมดีไซน์โมเดิร์น จับกลุ่มลูกค้าครอบครัวระดับกลาง – บน โดยมีลูกค้าให้ความสนใจซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองเป็นจำนวนมาก ทำให้สามารถโกยยอดขายรอบพิเศษ มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยของการเลือกซื้อ The City นวมินทร์ “ทำเล” และ “แพ็คเกจราคา” เป็นคำตอบสำคัญอันดับแรก

โดยโครงการ The City นวมินทร์ มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท จำนวนทั้งสิ้น 108 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 8.59 ล้านบาท บ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ในสไตล์สถาปัตยกรรมมเดิร์น พร้อมตอบการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 185 – 230 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน ห้องแม่บ้าน พร้อมเรือนรับรอง และที่จอดรถ 2 คัน นับได้ว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวเพียงโครงการเดียวในทำเล “ใจกลางนวมินทร์” ทำเลที่พร้อมตอบสนองความสมบูรณ์แบบของการใช้ชีวิต

ด้วยความหลากหลายของเส้นทางเชื่อมสู่เมือง อาทิ ถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตร – นวมินทร์) ถนนรามอินทรา หรือถนนลาดพร้าว ใกล้ทางด่วนรามอินทรา – อาจรณรงค์ พร้อมขยายตัวของระบบขนส่งมวลชน ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อาทิ MRT สายสีน้ำตาล แคราย – บึงกุ่ม และ BTS สายสีชมพู แจ้งวัฒนะ – รามอินทรา เป็นต้น

ทั้งนี้  AP ได้เตรียมเอกสิทธิ์พิเศษเฉพาะลูกค้าโครงการ The City มอบบัตร The City Card มูลค่ากว่า 100,000 บาท บริการเหนือระดับเพื่อการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบที่ Pacific City Club อาทิ Six Sense Spa เป็นต้น รายละเอียดเพิ่มเติม www.apthai.com หรือ call 1623

EP.206 รีวิว บ้านเดี่ยว เดอะ ซิตี้ สุขุมวิท-แยกบางนา The City Sukhumvit-Bangna

สวัสดีค่า ผู้อ่าน Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ The City สุขุมวิท – แยกบางนา บ้านเดี่ยว 2 ชั้นสไตล์โมเดิร์นอิตาลี ทำเลติดถนนสรรพาวุธซึ่งเชื่อมต่อกับถนนสายหลักอาทิ สุขุมวิท บางนา ใกล้ทางด่วนด่านบางนา และทางด่วนบูรพาวิถี อีกทั้งใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีอุดมสุขและบางนา เพียง 3 นาที

พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการประกอบด้วย The City Club สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส พื้นที่สวนพักผ่อน และการรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุด ในสังคมบ้านเดี่ยว เพียง 94 ครอบครัว โครงการจะเป็นอย่างไร เราไปดูรายละเอียดกันเลยค่า

ที่ตั้งโครงการ

ซอยออนป้า ถนนสรรพาวุธ แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ

คลิก เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

การเดินทาง

การเดินวันนี้เริ่มจาก ถนนสุขุมวิท วิ่งตรงไป แยกบางนา เลี้ยวขวาไป ถนนสรรพาวุธ ตรงไปประมาณ 1 กม.ให้เลี้ยวซ้ายเข้า ซอยออนป้า ตรงไปอีกประมาณ 300 เมตร ก็จะเจอซุ้มโครงการ The City สุขุมวิท – แยกบางนา แล้วค่า เราไปดูภาพการเดินทางจริงกันต่อนะคะ

การเดินทางวันนี้เราเริ่มจากบนถนนสุขุมวิท จาก BTS สถานี อุดมสุข ซึ่งอยู่ห่างจากที่ตั้งโครงการประมาณ 2 กม.

เราวิ่งตรงไป ผ่านแยกอุดมสุข ตรงนี้ถ้าเลี้ยวซ้ายเข้าซอยอุดมสุขสามารถวิ่งไปออกถนนศรีนครินทร์ได้ แต่ถ้าไปโครงการ The City สุขุมวิท – แยกบางนา นี่เราวิ่งตรงต่อไปนะ

ตรงมาหน่อยจะเห็นป้ายเลี้ยวขวาไปสรรพาวุธอยู่ ก็แสดงว่าใกล้ถึงแยกบางนาแล้วค่ะ

ตรงทางไปแยกบางนานี่จะเห็นลูกศรขาวติดอยู่ที่พื้นถนนสองเลนเลย หมายความว่าเราสามารถเลี้ยวขวาไปสรรพาวุธได้ ทั้ง2 ช่องนะคะ ข้อดีคือช่วงไหนรถเยอะจะได้ไม่ต้องรอที่ช่องขวาสุดช่องเดียว

ถึงแยกบางนาแล้วเลี้ยวขวาไปถนนสรรพาวุธ

พอเลี้ยวขวามาถนนสรรพาวุธแล้วเราตรงต่อไปตามทางเลยค่ะ ..แถวสรรพาวุธซอย 1 ใกล้ๆแยกบางนานั้นจะมี ตลาดบางนา อยู่ทางฝั่งซ้ายมือด้วย ซึ่งถือเป็นตลาดสดที่ใกล้โครงการมากที่สุดและยังเป็นจุดต่อรถต่างๆอีกด้วยค่ะ ทั้งรถเมล์และวินมอเตอร์ไซค์ ช่วงต้นซอยสรรพาวุธจะเห็นป้ายโฆษณาโครงการ The City สุขุมวิท – บางนา ติดอยู่

ขับตรงมาอีกหน่อย พอเห็นตึกวิทยาลัยอรรถวิทพาณิชยการทางขวามือ และตึก Country Tower ทางซ้ายมือ ก็แสดงว่าใกล้ถึงโครงการแล้วค่ะ

ตรงมาอีกหน่อยก็จะเห็นป้ายซอยออนป้า และป้ายบอกทางของโครงการ The City ติดอยู่ จุดสังเกตหน้าทางเข้าซอยอีกจุดคือป้ายคอนโดบางนาเพลสค่ะ พอเห็นปุ๊บเราก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอย

ซอยออนป้าเป็นถนนสาธารณะประโยชน์สองเลน รถวิ่งสวนกันได้ มีทางเดินเท้าสองฝั่งข้างทาง และติดไฟข้างทางให้เรียบร้อยดีค่ะ

ที่ต้นซอยออนป้าจะมีพี่วินมอเตอร์ไซค์อยู่ พร้อมอัตราค่าโดยสาร จากต้นซอยไปโครงการนี่แค่ 300 เมตร จริงๆเดินได้สบายๆนะคะ แต่ถ้าถือของมาหนัก นั่งวินไปส่งหน้าบ้านคิด 10 บาท ทั้งโครงการค่ะ, ไป BTS บางนา 25 บาท, ปากซอยแบริ่ง 30 บาท, เซ็นทรัลบางนา 50 บาท

ก่อนถึงโครงการจะมีคอนโดสูง 8 ชั้นชื่อ Bangna Place อยู่ทางซ้ายมือ ข้อดีของการมีคอนโดอยู่ใกล้ๆ คือตอนกลางคืนถนนในซอยจะไม่เปลี่ยวค่ะ คือมีคนเข้าออกเรื่อยๆ และมีรปภ.หน้าทางเข้าคอนโดช่วยดูความปลอดภัยทางเข้าออกโครงการให้อีกแรงด้วย

ฝั่งตรงข้ามคอนโดมีร้าน ป้าต่าย อาหารตามสั่งอยู่

เดินผ่านสะพานข้ามคลองมาก็จะเจอซุ้มทางเข้าโครงการแล้ว

สะพานข้ามคลองบางนา คั่นระหว่างคอนโดสูง 8 ชั้นและโครงการ The City สุขุมวิท – แยกบางนา ระหว่างเดินถ่ายรูปเราก้มลงดูรอบๆ น้ำในคลองไม่มีขยะหรือกลิ่นรบกวนอะไร ถือว่าโอเคค่ะ

มองจากสะพานมาก็จะเป็นหน้าซุ้มทางเข้าโครงการ The City สุขุมวิท – แยกบางนา แล้วค่ะ

ภาพมุมสูงโครงการ

ที่ดินของโครงการนี้จะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวยาวจัดพื้นที่ส่วนกลางอย่างสวนสาธารณะ สโมสร สำนักงานขายเอาไว้ส่วนหน้าของโครงการที่ติดฝั่งคลองบางนา เข้ามาแล้วเจอเลย จากคลองบางนามาจนถึงหมู่บ้านด้านท้ายโครงการลึกประมาณ 350 เมตร คนที่อยู่บ้านซอยหลังๆก็สามารถเดินมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้ในระยะเดินสบายๆค่ะ

รอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารที่พักอาศัยทั้งทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวสูงประมาณ 2 ชั้น รอบสามด้านโครงการ ส่วนด้านหน้าทางฝั่งทิศเหนือติดคลองบางนา ถัดจากคลองไปเป็นคอนโดสูง 8 ชั้น

สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการ

สถานที่สำคัญ

• มูลนิธิสายใจไทย 350 ม.
• จุดขึ้นลงทางด่วนประชาชื่น 1.4 กม.
• รถไฟฟ้า BTS อุดมสุข 2 กม.
• รถไฟฟ้า BTS บางนา 2 กม.
• Bangkok Mall 2 กม. (ห้างกำลังจะเปิด ปี 2559)
• Bitec บางนา 2 กม.
• Central บางนา 4 กม.
• Mega บางนา 10.5 กม.
• ร.ร. นานาชาติเบิร์คลีย์ 2.3 กม.
• ร.ร. บางกอกพัฒนา 2.9 กม.
• ร.ร. เซนต์โยเซฟบางนา 6.4 กม.
• ร.พ. กล้วยน้ำไท2 2 กม.
• ร.พ. ไทยนครินทร์ 5.4 กม.

ส่วนห้างใหญ่ๆที่มีอยู่แล้วในโซนนี้จะเกาะตัวกันอยู่บนถนนเส้น บางนา – ตราด แทบทั้งหมดเลยค่ะ ไล่ไปตั้งแต่เซ็นทรัลบางนาและบิ๊กซี ไปจนถึง Index Livingmall, Lotus, Mega Bangna และ Ikea

บริเวณโครงการ

ซุ้มโครงการ The City สุขุมวิท – แยกบางนา ออกแบบมาในโทนสี ขาว เทา มีการใช้เส้นแนวตั้งสีเทาเป็นส่วนตกแต่งช่วยเพิ่มมิติและลดความรู้สึกทึบตันได้ดี ซุ้มมีขนาดค่อนข้างใหญ่ หลังคาซุ้มสูงและกว้าง ช่วยกันแดดกันฝนให้กับตัวป้อมรปภและผู้ผ่านเข้าออก

การเข้าออกโครงการเป็นระบบ Key card Access แบบระยะใกล้ และประตูรั้ว 2 ชั้นคือแบบรั้วไม้กระดกและประตูเลื่อนไฟฟ้า ด้านหน้าโครงการจะมีกล้อง CCTV 2 ตัวแบบส่องป้ายทะเบียนและหน้าตาของผู้มาติดต่อ พื้นส่วนซุ้มโครงการจะเป็นพื้นสแตมป์คอนกรีต

เข้ามาจะเจอถนนหลักโครงการเป็นถนนคอนกรีตกว้าง 16 เมตร มีทางเดินเท้าสองฝั่ง ซ้ายมือจะเป็นสวนสาธารณะ สโมสรและสำนักงานขายและบ้านตัวอย่างจะอยู่ด้านหน้าเราเลยค่ะ

ถ้าเราขับรถมาติดต่อสำนักงานขายก็ขับตรงไปจอดด้านหลังสำนักงานขาย ส่วนถ้าจะเข้าไปส่วนที่พักอาศัยก็เลี้ยวขวาตามทาง เดี๋ยวเราจะพาไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ

ถนนย่อยในซอยเป็นถนนคอนกรีตกว้าง 9 เมตร มีทางเดินเท้าปูหญ้าปูแผ่นหิน พร้อมปลูกต้นไม้ด้านนอกรั้วให้เรียบร้อยดี ซึ่งนอกจากจะทำให้ดูร่มรื่นขึ้นแล้วยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับภายในบ้านด้วยค่ะในแต่ละซอยจะมีบ้านไม่เกิน 6 หลังนะคะ ก็ถือว่ามีความส่วนตัวดีเลยและซอยก็ไม่ลึกเกินไปด้วย หลังสุดท้ายก็สามารถเดินเข้าออกซอยได้สะดวก ไม่ไกลจนเกินไป

เรื่องความปลอดภัยทุกซอยจะมีกล้อง CCTV ติดอยู่ตามในภาพ และจากในภาพจะเห็นว่ากำแพงโครงการที่ปกติสูง 3 เมตรนั้น จริงๆมีการต่อรั้วโปร่งเพิ่มให้อีกจนสูงเลยเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยให้คนในโครงการนะคะ

กลับมาดูสวนสาธารณะส่วนด้านหน้าสโมสรโครงการกันต่อค่ะ ในสวนสาธารณะปลูกต้นไม้ไว้ให้ทั้งไม้พุ่มและไม้ยืนต้น พื้นปูหญ้าและดูแลให้ดูเขียวสดและร่มรื่นน่าเดินดีค่ะ มีทำทางเดินพร้อมม้านั่งไว้ให้เป็นจุดๆ

ถัดจากสวนสาธารณะจะเป็นสโมสรและสำนักงานขายของโครงการ สูงสองชั้น ด้านล่างจะเป็นส่วนห้องของสำนักงานขายและสระว่ายน้ำ ด้านบนเป็นห้องฟิตเนสและนิติบุคคลค่ะ ไปสำรวจกันต่อเลย

ภายในสำนักงานขายค่ะ ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น มีการเดินเส้นแสงตกแต่งจากเพดานวิ่งไปที่ฉากหลังเคาเตอร์ช่วยนำสายตาได้ดี จะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายอยู่หลังเคาเตอร์คอยให้บริการข้อมูล น้ำดื่ม กาแฟ และพาชมโครงการนะคะ ที่นี่พิเศษหน่อยจะมีเปิดเพลง cover เพราะๆคลอระหว่างเดินชมโครงการและบ้านตัวอย่างด้วยค่ะ เพลิดเพลินกันไป

นอกจากในสำนักงานขายจะจัดส่วนที่นั่งไว้ต้อนรับลูกค้าหลายจุดแล้ว จะมีทีวีที่เปิดให้ดูภาพจากกล้อง CCTV ที่ติดในทุกซอยของโครงการด้วยค่ะ

ออกจากสำนักงานขายมา ด้านข้างจะเป็นสระว่ายน้ำของโครงการค่ะ เป็นสระระบบเกลือขนาด 8 x 5.4 ม. สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 ม. สระเด็กลึก 0.6 ม. พื้นข้างสระปูแผ่นไม้สำเร็จสร้างบรรยากาศแนวรีสอร์ทในสวน รอบสระปูกระเบื้องโทนสีน้ำตาลอ่อนเข้ากัน

ข้างสระจะมีชุดโซฟาหวายเทียมที่เปียกน้ำได้เอาไว้ให้นั่งพัก วางของ หรือนั่งเฝ้าเด็กๆเล่นน้ำกันได้

เดินมาด้านหลังจะมีห้องน้ำหญิงและชายอยู่ มีทำกันสาดผ้าใบยื่นมากันแดดกันฝนส่วนทางเดินให้ และล้อมด้วยแนวรั้วพุ่มไม้ตกแต่ง เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้จากที่จอดรถด้านหลัง

ห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิกผิวด้านสีครีมเรียบๆ ในห้องน้ำจะมีห้องอาบน้ำ 1 ห้อง และห้องโถสุขภัณฑ์ 2 ห้องค่ะ

เปิดให้ดูหน้าตาห้องอาบน้ำและห้องโถสุขภัณฑ์ค่า พื้นห้องน้ำจะมีการลดระดับพื้นลงไปประมาณ 5 cm. เพื่อไม่ให้พื้นส่วนอื่นๆเปียก

อ่างล้างหน้ามี 2 อ่างค่ะ เคาเตอร์อ่างเป็นหินแกรนิตสีดำยาวต่อเนื่องกัน มีเต้าเสียบข้างผนังเตรียมไว้ให้เสียบไดร์เป่าผมได้

ขึ้นมาชั้นบนจะมีทางเดินเชื่อมไปห้องฟิตเนสนะคะ

ที่ทางเดินเชื่อมหันไปด้านหน้าจะเห็นสวนสาธารณะของโครงการ

หันไปด้านหลังจะเห็นลานจอดรถด้านหลังสโมสร

ที่ห้องฟิตเนสตกแต่งด้วยโทนสีเทา น้ำตาลเบจ พื้นปูพรมสีเบจ มีเครื่องออกกำลังกายอยู่สี่เครื่อง

มีเครื่องซิทอัพ ปั่นจักรยานอย่างละเครื่อง และลู่วิ่งไฟฟ้าอีกสองเครื่องค่ะ วางเครื่องหันหน้าออกไปทางผนังกระจกแบบหน้ากว้าง ออกกำลังกายไป ชมวิวสวนไป

ใครอยากเพาะกล้ามก็มีราวเวทยกน้ำหนักพร้อมเครื่องชั่งน้ำหนักมาให้

HOUSE TYPE

แบบบ้านที่นี่จะมี 2 แบบด้วยกันนะคะ คือ MIRO และ PARCO เดี๋ยวเราจะพาไปดูบ้านตัวอย่างไล่จากขนาดเริ่มต้นคือ MIRO (พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. จำนวน 64 หลัง) ก่อนนะคะ แล้วจะตามด้วยแบบ PARCO ( พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม.จำนวน 32 หลัง)

แปลนบ้าน MIRO

ชั้น 1 ของ Miro จะมีทางเข้า 2 ทาง ทั้งทางเข้าจากลานจอดรถ และ ทางเข้าจากเฉลียงหน้าบ้านเข้ามาจะเจอ ห้องรับแขก, ห้องรับประทานอาหาร, Pantry, ครัวไทย, ลานหลังบ้าน และ ห้องน้ำชั้นล่างตามลำดับ

ชั้น 2 ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำ 3 ห้อง และห้องอเนกประสงค์อีกห้องที่โถงบันได ห้องนอนใหญ่ กับ ห้องนอนที่ 2 ส่วนหน้าบ้าน มีห้องน้ำในตัว ห้องนอนใหญ่จะมี Walkin closet และ ระเบียงในห้องด้วย

แบบบ้าน : MIRO ขนาดที่ดิน เริ่มต้น 53.7 – 59.2 ตร.วา | พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม.

3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องนั่งเล่น ที่จอดรถ 2 คัน

ขอพาไปดูรอบๆบ้านแบบ Miro กันก่อนนะคะ ประตูรั้วจะเป็นโครงเหล็กโปร่งทาสีดำ แบบรางเลื่อน และมีประตูเล็กสำหรับเดินเข้าแยกจากประตูรถ

ที่กำแพงหน้าบ้านอีกฝั่ง จะมีกล่องจดหมายที่ด้านหน้าติดเลขที่บ้านไว้ และจุดเก็บขยะค่ะ ภาพขวามือเป็นจุดทิ้งขยะมีฝาปิดซึ่งเราไม่ต้องเปิดประตูรั้วออกไปทิ้งนอกบ้าน แต่สามารถเปิดทิ้งในบ้านได้เลย แล้วคนเก็บขยะจะมาเก็บไปจากด้านนอกเองค่ะ

พื้นส่วนลานจอดรถเป็นผิวทรายล้างสลับสี แยกโครงสร้างกับตัวบ้านนะคะ ในระยะยาวจึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีรอยร้าวหรือรอยแยกออกมาจากตัวบ้าน ส่วนเพดานลานจอดรถติดไฟดาวน์ไลท์มาให้

ผนังด้านข้างของลานจอดรถจะมีตู้เก็บของมาให้เอาไว้ใช้เก็บอุปกรณ์ทำสวน ดูแลรถ หรืออุปกรณ์กีฬาต่างๆได้ ข้อดีคือส่วนเก็บของยกจากตัวพื้นลานจอดรถประมาณฟุตนึง ช่วยกันความชื้นเวลาฝนตกได้ดีขึ้นค่ะ

ที่ลานจอดรถจะมีประตูทางเข้าไปส่วนครัวหรือขึ้นบันไดไปข้างบนได้ โดยไม่ต้องผ่านส่วนห้องนั่งเล่น ข้อดีคือเวลาฝนตกก็สามารถขนของเข้าไปเก็บในครัวจากลานจอดรถได้เลย มีบันไดขึ้นไปสองสเต็ป ช่วยกันความชื้นและฝุ่นจากภายนอก และบานประตูที่ได้จะกว้างกว่าประตูลานจอดรถปกติด้วยค่ะ คือกว้างประมาณ 1 ม. (ทั่วไปจะประมาณ 0.7 – 0.8 ม.)

ส่วนหน้าบ้านปูหญ้า ปลูกต้นไม้ และวางแผ่นหินเป็นทางเดินไปเฉลียงหน้าบ้านมาให้เรียบร้อย พื้นที่ด้านหน้าบ้านมีระยะห่างมากพอที่จะปลูกไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นเพิ่มอีกได้พอสมควรเลยนะคะ ถ้าใครอยากทำมุมนั่งเล่นเพิ่ม ก็มีพื้นที่พอให้วางม้านั่ง หรือชุดโต๊ะเก้าอี้ได้อยู่

ส่วนด้านหลังบ้านค่ะ กำแพงรอบบ้านจะเป็นกำแพงสูง 1.5 ม. มีลูกเล่นต่างจากที่อื่นนิดหน่อยคือเป็นลายอิฐก้อนใหญ่สีขาว ลานซักล้างหลังบ้านที่ติดกับประตูห้องครัว แยกโครงสร้าง และปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. และมีลานคอนกรีตพร้อมแท็งน้ำมาให้เรียบร้อย

กลับมาที่เฉลียงหน้าบ้านกันต่อค่ะ ตัวเฉลียงสูงจากพื้นดินขึ้นมา 1 ขั้น ขนาดกว้างพอเหมาะ ตัวพื้นบ้านสูงขึ้นมาจากเฉลียงอีกประมาณ 10 ซม. ประตูหน้าบ้านเป็นแบบบานเลื่อน เลื่อนได้บานเดียวนะคะ กรอบประตูทั้งหมดจะเป็น UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง มือจับแบบหูช้าง

เปิดประตูเข้ามาด้านในจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นต่อเนื่องไปจนส่วนห้องทานอาหารค่ะ บ้านตัวอย่างจัดเฟอร์นิเจอร์มาให้เห็นความลงตัวในแง่การใช้งาน มีทำฝ้าหลุมเพิ่มนิดหน่อยส่วนทานอาหาร และทำช่องเก็บรางม่านเพิ่ม ซึ่งตรงนี้บ้านเปล่าจะไม่มีนะคะ เดี๋ยวมีภาพบ้านเปล่าอธิบายเพิ่มให้เห็นภาพค่ะ

ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ จะเห็นช่องแสงได้ชัดเจนขึ้นเพราะไม่มีม่านบังนะคะ หน้าต่างให้มาเป็นบานเลื่อนกรอบ UPVC สีขาวทั้งหมด ให้มาบานใหญ่ดีค่ะ ทำให้บ้านดูสว่างและโปร่ง บวกกับตัวบ้านมีฝ้าเพดานที่ให้มาสูงอยู่แล้วคือ 2.8 ม. ใครชอบทำฝ้าเพดานซ่อนไฟ ซ่อนม่าน สั่งทำเฟอร์บิลด์อิน เจอฝ้าสูงแบบนี้คงชอบค่ะ ไฟดาวน์ไลท์ให้ทั้งหลัง พื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. ผนังติดวอลเปเปอร์พร้อมบัวสีขาวมาให้

กลับมาที่บ้านตัวอย่างนะคะ ส่วนห้องนั่งเล่นจัดมาเป็นโซฟาแบบสามที่นั่งกำลังดี อาจวางอาร์มแชร์เพิ่มได้อีกตัวนะคะ เปิดม่านด้านหลังก็เห็นวิวสวนข้างบ้าน

ระยะห่างจากโซฟากับชั้นวางทีวีอยู่ที่ประมาณ 2 เมตร บ้านตัวอย่างทำชั้นบิลด์อินมาให้ดูเป็นไอเดีย ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี

ต่อจากส่วนห้องนั่งเล่นจะเป็นส่วนทานอาหาร จัดมา 6 ที่นั่ง จริงๆสามารถจัดได้ถึง 10 ที่นั่งสบายๆนะคะ มีระยะกว้างพอค่ะ เราเปิดม่านให้ดูทั้งสองฝั่ง ถ้าจัดสวนสวยๆ แสงดีๆ เปิดม่านก็จะได้บรรยากาศเหมือนทานข้าวในสวน ได้อารมณ์อีกแบบ แต่ถ้าขี้เกียจจัดสวนก็ปิดม่านไว้ได้ง่ายดี 555+

ถัดจากส่วนห้องอาหารจะเป็นส่วน Pantry ซึ่งตรงนี้บ้านตัวอย่างทำเคาเตอร์มาให้เห็นระยะใช้งาน มีภาพบ้านเปล่ามาให้ชมค่ะ

ส่วน Pantry ในบ้านเปล่าจะเห็นว่าไม่มีเคาเตอร์มาให้นะคะ ถ้าอยากได้ต้องทำเพิ่มเองซึ่งก็เพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดี แต่ถ้าบางคนไม่ค่อยทำอาหาร หรืออยากกั้นห้องเพิ่ม ไม่ว่าจะห้องนอนหรือห้องเล่นเกมส์ เราก็เลื่อนส่วนโต๊ะทานข้าวมาไว้ตรงหน้าครัวตรงนี้แทน และกั้นห้องต่อจากส่วนห้องนั่งเล่นเป็นห้องเพิ่มแทนได้

จะเห็นว่าพอวางเคาเตอร์ไปก็ยังมีระยะใช้สอยสบายๆไม่อึดอัดค่ะ

ส่วนครัวจะมีระดับพื้นต่ำลงมาจากพื้นบ้านปกติประมาณ 5 ซม. พื้นปูกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 ซม. เคาเตอร์ครัว ชั้นเก็บของบิลด์อินทั้งบนและล่าง รวมเครื่องดูดควันและ Back Splash กันเปื้อนที่ผนัง อ่างล้างจาน เตาสี่หลุม ของจริงได้ตามนี้ค่ะ เป็นครัวที่มีขนาดกำลังเหมาะ มีที่เตรียมอาหารและช่องระบายอากาศกำลังดี ไม่อับทึบ เหนือประตูทางออกไปลานซักล้างมีติดพัดลมดูดอากาศมาให้ และเตรียมเต้าเสียบและพื้นที่ไว้สำหรับตู้เย็นและเครื่องซักผ้าเรียบร้อย

ถัดจากครัวจะเป็นห้องน้ำชั้นล่าง ซึ่งอยู่ระหว่างครัวกับประตูทางออกไปลานจอดรถนะคะ เนื่องจากบ้านของที่นี่จะติดสัญญาณกันขโมยมาให้ทั้ง Shock Censer และ Magnetic Censer ทำให้เราจะเห็นก้อนเซนเซอร์แบบในรูปตามประตูหน้าต่างแบบในรูปขยายค่ะ เราขยายภาพมือจับประตูลานจอดรถมาให้ดูด้วยค่ะ

ช่องเก็บของหน้าห้องน้ำชั้นล่างจะเป็นที่เก็บงานระบบไฟนะคะ ทำเอาไว้เรียบร้อยเป็นสัดส่วนดี

ห้องน้ำชั้นล่างจะมีส่วนอาบน้ำพร้อมลดระดับพื้นมาให้ สุขภัณฑ์เป็นของ Kohler

มีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 1 บาน ตรงส่วนอาบน้ำ ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องจรดเพดาน ไฟดาวน์ไลท์ ส่วนอาบน้ำถ้าไม่อยากให้น้ำกระเด็นเปียกส่วนอื่นสามารถติดตั้งฉากกั้นกระจกเทมเปอร์เพิ่มได้นะคะ ไม่ต้องก่อพื้นเพิ่มเพราะลดระดับพื้นส่วนเปียกไว้ให้แล้ว

จับให้ดูขนาดฝักบัวชัดๆค่ะ ให้มาใหญ่ดี และมีเจาะช่องผนังส่วนอาบน้ำทำเป็นที่วางของเพิ่มให้ 2 ชั้น

เทียบขนาดมือกับอ่างล้างมือให้ดูค่ะ ไม่มีที่วางของรอบๆอ่างมากนักนะคะ พอวางสบู่ล้างมือ แปรงสีฟันยาสีฟันได้นิดหน่อย แต่สามารถทำเคาเตอร์อ่างเพิ่มเองได้ค่ะ

บริเวณโถงบันไดจะมีห้องเก็บของใต้บันไดมาให้ ภายในห้องเก็บของปูกระเบื้องเซรามิก เนื่องจากตัวบ้านมีเพดานสูง 2.8 ม. ทำให้เดินเข้าห้องเก็บของไปได้แบบไม่ต้องก้ม คนสูงไม่ถึง 160 นี่กระโดดเข้าไปได้เลย เหมาะทำชั้นเก็บของเพิ่มได้ และภายในมีพื้นที่ส่วนใต้บันไดเพิ่มอีกด้วย แต่จะมีผนังยุบเข้ามาส่วนนึงจากตู้เก็บของที่ลานจอดรถค่ะ แต่โดยรวมคือมีพื้นที่เก็บของเยอะอยู่ดี

พื้นบันไดเป็นไม้ประสานและพื้นชั้น 2 เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. พื้นทั้งคู่ทำมาสีโทนเดียวกันดีมากค่ะ มองแล้วต่อเนื่องสบายตา ส่วนราวบันไดจะเป็นเหล็กทาสีขาวท้อปเป็นไม้สีเข้ากันกับพื้นบันไดและพื้น ชานพักเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าเต็ม เดินสบายๆ

หน้าตาสวิตช์ไฟในบ้านเป็นสีขาวเรียบแบบนี้ ของ Panasonic

ตัวโถงบันไดบ้านตัวอย่างมีทำฝ้าซ่อนไฟและติดโคมระย้าและม่านเพิ่ม ซึ่งบ้านเปล่า(ภาพขวามือ) ฝ้าเพดานจะเป็นแบบเรียบนะคะ แต่แนะนำให้ติดโคมห้อยที่เพดานเพิ่มความสว่างให้โถงบันไดตอนกลางคืนนะคะ แต่ตอนกลางวันไม่มีปัญหาอะไรเพราะช่องแสงเจาะมากว้างอยู่แล้ว

เมื่อขึ้นมาชั้น 2 ตรงโถงบันไดจะมีพื้นที่อเนกประสงค์มาให้ บ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องนั่งเล่นชั้นบน ซึ่งเป็นไอเดียที่ดีนะคะ เพราะคนในครอบครัวจะได้มีพื้นที่ใช้ร่วมกันเพิ่มก่อนนอน และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าชั้นล่างด้วย

อันนี้พื้นที่อเนกประสงค์มุมเดียวกันจากบ้านเปล่าค่ะ

เราไปดูห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom กันต่อเลย จากโถงบันไดขึ้นมาจะอยู่ด้านขวา

ห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำ ระเบียง และ Walk in closet ในตัวนะคะ ในห้องสามารถวางเตียง 6 ฟุตหรือคิงไซส์ได้สบายๆ

ปลายเตียงวางมีพื้นที่พอเหมาะที่จะชั้นวางทีวีและโซฟาเดย์เบดไว้นอนเล่นอ่านหนังสือได้ หรือใครอยากเปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงานก็เหมาะเช่นกัน

มองไปที่ประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียง จะเห็นว่าระหว่างปลายเตียงกับทีวีเหลือระยะเดินสบายๆนะคะ

รูประเบียงในห้องนอนใหญ่จากบ้านเปล่าค่ะ ภาพซ้ายหันไปทางซ้าย ภาพขวาหันไปทางขวานะคะ พื้นระเบียงลดระดับลงจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 ซม. ปูกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 ซม. มีเดินท่อระบายน้ำที่พื้นไว้ให้เรียบร้อย ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งทาสีขาว ระเบียงลึกประมาณ 1 เมตรนะคะ ถ้าอยากวางชุดโต๊ะเก้าอี้คู่เพิ่มก็สามารถทำได้

จากระเบียงมองกลับไปที่ห้องนอน จะเห็นส่วน Walk in closet ที่บ้านตัวอย่างทำเพิ่มมาให้ดูเป็นไอเดียนะคะ ตรงนี้เราถ่ายภาพบ้านเปล่ามาเทียบให้ดูนะคะ

ภาพบ้านเปล่าถ่ายจากมุมเดียวกันค่ะ จะเห็นเป็นมุมที่เหมาะสำหรับวางตู้เสื้อผ้าก่อนเข้าห้องน้ำ มีช่องแสงมาให้ สามารถกั้นเป็น Walk in closet ได้สบายๆ

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ค่ะ สังเกตด้านหลังโถสุขภัณฑ์กับอ่างล้างมือมี Low wall มาให้วางของเพิ่มด้วย

อ่างล้างมือเป็นอ่างไฟเบอร์ เทียบกับฝ่ามือให้เห็นภาพขนาดอ่างค่ะ

ด้านล่างอ่างมีชั้นให้วางของได้ มีบานปิดให้

หน้าตาโถสุขภัณฑ์ค่ะ สุขภัณฑ์ของที่นี่ใช้ของ Kohler ค่ะ

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะมีฉากกั้นห้องกระจกเทมเปอร์สำหรับส่วนอาบน้ำมาให้นะคะ มีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน ตรงช่องแสงนี่มีเจาะผนังให้ใช้เป็นที่วางของเพิ่มได้

ส่วนอาบนำ้มีที่นั่งอาบน้ำไว้ให้ มีเจาะช่องที่ผนังไว้ให้วางของได้ 2 ชั้น ฝักบัวให้ขนาดมาใหญ่ดีค่ะ

ไปดูห้องนอนเล็กทั้งสองห้องที่อยู่ทางฝั่งซ้ายของโถงบันไดกันต่อนะคะ ห้องนอนเล็กทั้งสองห้องนี้จะมีห้องน้ำของชั้นสองคั่นอยู่ตรงกลาง

ห้องน้ำชั้น 2 สเป็ควัสดุและสุขภัณฑ์จะเป็นแบบเดียวกับห้องน้ำชั้น 1 เลยค่ะ คือจะมีส่วนอาบน้ำพร้อมลดระดับพื้นมาให้ สุขภัณฑ์เป็นของ Kohler มีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 1 บาน

หันหน้าไปทางบันไดจะเป็นห้องนอนเล็กที่มีห้องน้ำในตัวค่ะ เข้าไปดูกันต่อเลย

ห้องนี้จัดเป็นห้องลูกชายนะคะ (หรือไม่ก็ลูกสาวที่แมนมากๆ) เป็นห้องที่ได้หน้าต่างบานใหญ่เหมือนประตูออกไประเบียง พร้อมราวกันตกมาให้ แต่จริงๆเป็นระเบียงตกแต่งนะคะ เพราะห้องนี้หันไปทางหน้าบ้าน บ้านตัวอย่างจัดเป็นเตียงเดี่ยวมาให้ แต่จริงๆมีระยะพอวางเตียงควีนไซส์ 5 ฟุตได้ แต่แนะนำว่าถ้าวางเตียงคู่ให้หาตู้เสื้อผ้าแบบบานเลื่อนเพื่อประหยัดพื้นที่ในการเปิดปิดนะคะ

อันนี้เป็นไอเดียในการใช้เพดานสูง 2.8 ม. ของบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพนะคะ บ้านตัวอย่างทำเป็นชั้นวางของไปจนสุดเพดาน เป็นได้ทั้งพื้นที่ทำงานและพื้นที่เก็บของ

ห้องน้ำในห้องนอนเล็กค่ะ สเป็ควัสดุและสุขภัณฑ์แบบเดียวกันกับห้องน้ำชั้นล่าง

ห้องสุดท้ายที่เราพามาดูกันเป็นห้องนอนเล็กสุดของบ้านค่ะ ในห้องจะมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเลื่อนให้สองฝั่ง

มองออกไปที่ประตูทางเข้าห้อง จะเห็นว่าจัดเป็นห้องนอนลูกสาวแบบเตียงเดี่ยว แต่ขนาดห้องสามารถวางเตียงควีนไซส์ พร้อมวางตู้เสื้อผ้าได้นะคะ

แปลนบ้าน PARCO

ชั้น 1 ของ Parco จะมีทางเข้า 2 ทาง ทั้งทางเข้าจากลานจอดรถ และ ทางเข้าจากเฉลียงหน้าบ้าน เข้ามาจะเจอ ห้องรับแขก, ห้องรับประทานอาหาร, Pantry, ครัวไทย, ลานหลังบ้าน และห้องน้ำชั้นล่างตามลำดับคล้ายกันกับแบบ Miro แต่ต่างกันตรงที่หลังนี้จะมีส่วนห้องอเนกประสงค์ที่สามารถใช้เป็นห้องนอนหรือห้องทำงานชั้นล่างได้ และมีห้องแม่บ้านอยู่ด้านหลังบ้านด้วย ซึ่งสามารถใช้เป็นห้องซักรีดได้

ชั้น 2 ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำ 3 ห้อง ห้องนอนใหญ่ กับ ห้องนอนเล็กฝั่งหน้าบ้านจะมีห้องน้ำในตัว ห้องนอนใหญ่จะมี Walkin closet และ ระเบียงในห้องด้วย มีพื้นที่อเนกประสงค์ที่โถงบันไดให้ใช้เป็นห้องนั่งเล่นชั้น 2 ได้

แบบบ้าน : PARCO ขนาดที่ดิน เริ่มต้น 61.1 – 85.1 ตร.วา | พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม.

4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 1 ห้องนั่งเล่น ที่จอดรถ 2 คัน

สเป็ควัสดุของบ้านแบบ Parco ในส่วนต่างๆนี่จะเหมือนกันกับบ้านแบบ Miro ทุกอย่างนะคะ แตกต่างกันที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชั่นต่างๆในบ้าน สำหรับหลังนี้จะเน้นพาไปดูส่วนที่บ้านแบบ Parco มีว่าต่างจาก Miro ยังไง เราไปดูกันเลยค่า

ส่วนลานจอดรถของ Parco จอดได้ 2 คันเหมือนกัน แต่มีที่เก็บที่ลานจอดรถมากกว่าค่ะ จาก Miro จะมีที่เก็บของฝั่งติดห้องใต้บันไดฝั่งเดียว แต่แบบ Parco นี้จะมีที่เก็บของที่เสาด้านข้างลานจอดรถเพิ่มมาให้ด้วย

เปิดที่เก็บของให้ดูค่ะ เราลองขึ้นไปยืนได้ทั้งตัวไม่ต้องก้มหัวเลย ใครขยันหน่อยทำชั้นเพิ่มซักชั้นนึงจะเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดีเลยค่ะ

มองไปทางสวนหน้าบ้านก็มีปูหญ้า แผ่นหินทางเดิน และปลูกต้นไม้มาให้เหมือนกัน

ที่เฉลียงหน้าบ้านของ Paco จะกว้างกว่าของ Miro นะคะ เพราะตัวเฉลียงจะวิ่งต่อไปที่พื้นที่ข้างบ้านด้วยตามภาพซ้ายมือ วันไหนอากาศดีๆก็หอบหมอนหอบเสื่อมานั่งชมสวนตรงนี้ได้

ส่วนหลังบ้านของ Parco ก็จะต่างกับแบบ Miro อยู่พอสมควรค่ะ ภาพซ้ายเรามองเข้าไปที่แท็งน้ำ ส่วนภาพขวาเราไปยืนที่แท็งน้ำแล้วมองออกมานะคะ คือจะมีประตูสองบาน บานนึงเปิดเข้าห้องครัว บานนึงเปิดเข้าห้องแม่บ้าน ข้างๆห้องครัวจะมีตู้เก็บของเพิ่มมาให้อีกจุดด้วย เป็นจุดที่คิดมาดีนะคะ เพราะบ้านใหญ่ คนอยู่เยอะ ของก็เยอะตาม การมีที่เก็บของในตำแหน่งที่เหมาะสมจะช่วยให้บ้านเป็นระเบียบเรียบร้อยได้ง่าย

ระหว่างห้องครัวกับห้องแม่บ้าน จะมียกพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าอยู่ เครื่องซักผ้านั่นของจริงไม่มีให้นะคะ วางให้ดูเป็นไอเดียเฉยๆ ลานหลังบ้านก็แยกโครงสร้าง ปูกระเบื้องเซรามิกมาให้หมด

เข้าไปดูในบ้านกันต่อนะคะ ส่วนห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับเฉลียงหน้าบ้าน ถัดไปเป็นส่วนห้องทางอาหาร วัสดุก็เหมือนกันกับแบบ Miro ทุกอย่างนะคะ

ภาพจากบ้านเปล่า Parco ค่ะ พื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. ผนังติดวอลเปเปอร์พร้อมบัวสีขาวมาให้ หน้าต่างให้มาเป็นบานเลื่อนกรอบ UPVC สีขาวทั้งหมด ฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มฉาบเรียบสูง 2.8 ม. ไฟดาวน์ไลท์ทั้งหลัง

บ้านตัวอย่างทำชั้นวางทีวีแบบบิลด์อินมาให้ดูเป็นไอเดีย แต่แบบ Parco นี้จะมีส่วนห้องนั่งเล่นที่ลึกกว่าแบบ Miro นิดหน่อยนะคะ ก็คือจะทำชั้นได้ยาวขึ้นอย่างที่เห็นในบ้านตัวอย่างวางเก้าอี้อาร์มแชร์เพิ่มมาให้ดูระยะใช้งานด้วย

ส่วนห้องทานอาหาร บ้านตัวอย่างจัดมาเป็นแบบ 6 ที่นั่ง แต่ระยะพอจัดให้เป็น 10 ที่นั่งได้อยู่นะคะ กรณีเชิญแขกมา เปิดม่านก็เป็นวิวสวนในบ้าน 2 ฝั่ง

ทางเข้าห้องครัวในบ้านตัวอย่าง

ทางเข้าห้องครัวจากบ้านเปล่าค่ะ ของจริงจะเป็นกระจกบานเลื่อนแขวนรางด้านบนแบบนี้นะคะ ข้อดีคือไม่มีรางที่พื้น ทำให้ทำความสะอาดพื้นได้ง่าย

ส่วนครัวจะมีระดับพื้นต่ำลงมาจากพื้นบ้านปกติประมาณ 5 ซม. พื้นปูกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 ซม. เคาเตอร์ครัว ชั้นเก็บของบิลด์อินทั้งบนและล่าง รวมเครื่องดูดควันและ Back Splash กันเปื้อนที่ผนังหลังเคาเตอร์ อ่างล้างจาน เตาสี่หลุม ของจริงได้ตามนี้ค่ะ

เป็นครัวที่มีขนาดกำลังเหมาะ มีที่เตรียมอาหารและช่องระบายอากาศกำลังดี ไม่อับทึบ เหนือประตูทางออกไปลานซักล้างมีติดพัดลมดูดอากาศมาให้ และเตรียมเต้าเสียบและพื้นที่ไว้สำหรับตู้เย็นเรียบร้อย

ไปดูห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างกันต่อค่ะ

ห้องอเนกประสงค์จัดมาเป็นห้องทำงานนะคะ ภาพซ้ายมือทำชั้นวางของสูงจรดเพดานมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ ภาพขวามือวางโต๊ะทำงานมาให้ดูระยะใช้งาน

ขึ้นไปดูชั้นบนกันต่อนะคะ บันไดของ Parco กับ Miro นั้นเป็นแบบเดียวกันทุกอย่างนะคะ แต่ต่างกันที่โถงบันได Parco จะมีห้องอเนกประสงค์ที่มีขนาดใหญ่กว่า และในบ้านตัวอย่างจะเห็นว่ากั้นส่วนห้องอเนกประสงค์มาให้ดูเป็นไอเดียด้วยอย่างที่เห็นในภาพขวา

ถ่ายภาพจากโถงบันไดชั้น 2ในบ้านเปล่ามาให้ดูค่า ส่วนห้องอเนกประสงค์หรือห้องนั่งเล่นของชั้น 2 ของ Parco จริงๆจะโล่งแบบนี้คล้ายกับ Miro นะคะ แต่ใหญ่กว่าเยอะเหมือนกัน จริงๆไม่กั้นห้องทึบแบบบ้านตัวอย่าง แต่กั้นเป็นกระจกบานเฟี้ยมหรือบานเลื่อนไว้ก็ดีนะคะ ถ้ามีงบ ทำเป็นห้องพักผ่อนในครอบครัวร่วมกันชั้นบน วันไหนร้อนๆก็เปิดแอร์ได้ วันไหนไม่ได้ใช้ก็เปิดโล่งให้อากาศถ่ายเทได้ไรงี้

บ้านตัวอย่างจัดห้องอเนกประสงค์เป็นห้องพักผ่อน แบบกึ่งโซฟายาวกึ่งเดย์เบดที่ดูน่าเอนหลังดี

ระยะห่างจากชั้นวางทีวีกำลังสวยค่ะ จัดเป็นห้องเล่นเกมส์สำหรับเด็กๆก็เหมาะ

มาดูห้องนอนใหญ่กันต่อค่ะ ห้องนอนใหญ่ของ Parco จะมีขนาดห้องใหญ่กว่า Miro จะเห็นว่าตัวห้องกว้างขวาง มีระยะพอวางโต๊ะทำงาน เก้าอี้ปลายเตียงตัวใหญ่ๆ ได้สบายๆ

มองไปทางประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียง จะเห็นว่าต่อให้วางเก้าอี้นอนตัวใหญ่ลงไปแล้ว ปลายเตียงก็ยังมีระยะเดินเหลือเฟือค่ะ

จากระเบียงมองไปทาง Walk in closet ในบ้านตัวอย่างจะมีกั้นห้องมาให้ดูเป็นไอเดีย

ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ จะเห็นว่าห้องนอนใหญ่ของจริงจะไม่มีกั้นห้องส่วน walk in closet มาให้นะคะ แต่จะเป็นมุมยุบเข้าไปที่เหมาะจะใช้วางตู้เสื้อผ้าแทน ประตูฝั่งซ้ายมือเป็นประตูห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ค่ะ

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ของ Parco สเป็ควัสดุและสุขภัณฑ์ก็จะเหมือนกันกับ Miro ทุกอย่างค่ะ

ห้องนอนเล็กติดไปทางฝั่งด้านหลังบ้าน ที่เหมือนจะจัดเป็นห้องของยุนอา SNSD 555+ ห้องนี้จะไม่มีห้องน้ำในตัวหรือระเบียงเหมือนห้องนอนห้องอื่นนะคะ แต่ก็เป็นห้องนอนที่มีขนาดกว้างขวาง จะเห็นจากภาพบ้านตัวอย่างว่าวางเตียงคู่มาให้ และสามารถวางเตียงขนาดคิงส์ไซส์ได้สบายๆ

ปลายเตียงของห้องยุนอานี่จัดเป็นโต๊ะยาว สำหรับทำงานหรือใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งไปในตัวก็ได้ พร้อมชั้นลอยด้านบนมาให้ดูเป็นไอเดีย อีกฝั่งของผนังก็วางตู้เสื้อผ้ามาให้ดูระยะใช้งานค่ะ

เข้าไปดูห้องนอนเล็กห้องสุดท้ายกันนะคะ ภาพนี้ถ่ายจากประตูทางเข้าห้อง ซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำในห้องนอนเล็กนี้ค่ะ (สเป็คเหมือนกันกับห้องน้ำเล็กใน Miro เป๊ะ) เข้าไปจะเห็นว่าส่วนปลายเตียงสามารถวางตู้เสื้อผ้าหรือชั้นหนังสือไปแล้วก็มีระยะเดินสบายๆไม่อึดอัดค่ะ

ห้องนี้จะมีห้องน้ำและระเบียงในตัว สเป็คเดียวกับห้องน้ำในห้องนอนเล็กของ Miro นะคะ แต่ห้องนอนของ Parco มีขนาดใหญ่กว่า วางเตียงคิงไซส์ไปแล้วก็ยังมีระยะเดินข้างเตียงทั้งสองฝั่งได้สบายๆค่ะ

สรุป

♦ ทำเลที่ตั้งโครงการ : The City สุขุมวิท – แยกบางนา ตัวโครงการอยู่ในซอยออนป้า ห่างจากถนนใหญ่สรรพาวุธประมาณ 300 เมตร สภาพแวดล้อมบริเวณรอบโครงการ ส่วนมากจะเป็นบ้านพักอาศัย และคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น ถนนทางเข้าออกโครงการมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีคนเดินผ่านไปมาอยู่เรื่อยๆ ถือว่ามีความสงบเป็นส่วนตัว แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ห่างไกลความเจริญ สามารถไปยังจุดต่างๆในเมืองหรือนอกเมืองได้สะดวก

เรื่องความอุดมสมบูรณ์จะมีตลาดสดอยู่ไม่ไกลจากโครงการเลยเพราะอยู่ตรงแยกบางนาพอดี ถ้าอยากได้ร้านอาหารนอกห้างราคาไม่แพงแนะนำพวกร้านอาหารในซอยสุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต)และซอยสุขุมวิท 103 (อุดมสุข) ก็มีร้านอาหารเด็ดๆอยู่หลายร้านค่ะ

จุดเด่นอีกจุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือในอนาคตจะมีห้างใหญ่ The Bangkok Mall มาเปิดให้บริการตรง 4 แยกบางนาพอดี ซึ่งห้างนี้จะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2 กิโลเมตร การมาของห้างนี้จะทำให้มูลค่าที่ดินทำเลโซนนี้สูงขึ้นและเจริญเติบโตขึ้นได้อีกเยอะแน่นอน

ส่วนห้างใหญ่ๆที่มีอยู่แล้วในโซนนี้จะเกาะตัวกันอยู่บนถนนเส้น บางนา – ตราด แทบทั้งหมดเลยค่ะ ไล่ไปตั้งแต่เซ็นทรัลบางนาและบิ๊กซี ไปจนถึง Index Livingmall, Lotus, Mega บางนา และ Ikea

♦ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : ถึงแม้ว่าตัวโครงการจะอยู่ในซอยออนป้าห่างจากถนนสรรพาวุธประมาณ 300 ม. การเดินทางยังถือว่าสะดวกเพราะปากซอยอยู่ใกล้จุดกลับรถ แถมห่างจากแยกบางนาแค่ประมาณ 1 กม. เวลาจะขึ้นทางด่วนที่ด่านบางนาก็กลับรถแล้วตรงไปนิดเดียวก็ถึงค่ะ

ขาลงทางด่วนก็ลงที่ด่านบางนา เข้าถนนสุขุมวิท กลับรถมาที่แยกบางนาแล้วเลี้ยวขวาก็เข้าถนนสรรพาวุธได้เลย การเดินทางเข้าเมืองถ้าไม่กลัวรถติดก็ใช้เส้นสุขุมวิทไปตรงๆได้เลย ถ้าอยากหลบรถติดจะไปเส้นพระราม 4 ไปสาทรก็ใช้ถนนรางรถไฟสายเก่าไปได้

♦ การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ปกติถ้าจากโครงการเลย จะเป็นรถแท็กซี่ กับวินมอเตอร์ไซค์หน้าซอยออนป้าเป็นหลักค่ะ ถ้าไม่โทรเรียกแท็กซี่ก็เดินออกมาโบกตรงปากซอยออนป้า บนถนนสรรพาวุธจะมีแท็กซี่ผ่านมาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ถ้านั่งวินมอเตอร์ไซค์จากปากซอยออนป้าไปลง BTS บางนา อัตราค่าบริการ 25 บาท นอกจากนี้จะมีรถสองแถว บางนา-กิ่งแก้ว อยู่ตรงแถวแยกบางนา อัตราค่าบริการ 7 บาทค่ะ

♦ บ้านและวัสดุ : โครงการนี้ ออกแบบภายใต้แนวคิด บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern Italy รูปแบบภายนอกบ้านดูทันสมัย ใช้โทนสีเทา – น้ำตาล หลายเฉดที่ดูลงตัวกันดี วัสดุที่ให้มาก็อยู่ในระดับมาตรฐานค่อนข้างดี และออกแบบฟังก์ชั่นมาแบบใส่ใจรายละเอียด พื้นที่ใช้งานแต่ละส่วนมีความลงตัวดีเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ แต่ก็มีบางจุดก็ต้องทำเพิ่มเอง เช่นการกั้นห้องนั่งเล่นชั้น 2 เพิ่ม หรือทำเคาเตอร์ห้องน้ำเล็กเพิ่มที่วางของ เป็นต้น

โดยบ้านที่ทางโครงการขาย จะเป็นบ้านมาตรฐาน (บ้านเปล่า) + เคาน์เตอร์ครัวแบบพร้อมใช้งาน (เคาน์เตอร์ TOP หินแกรนิตสีดำ + เตาแก๊ส 4 หัว, เครื่องดูดควัน + ซิงค์ล้างจานสแตนเลส 2 หลุม ของ Teka มีชั้นลอยติดตั้งเข้าชุดมาเลย)

ผนังบ้านติดวอลเปเปอร์ และ ฝ้าเพดานยิปซั่มฉาบเรียบทาสีขาว, ไฟดาวน์ไลท์ทั้งหลัง, ลานจอดรถเป็นทรายล้าง, เฉลียงหน้าบ้านและลานหลังบ้านปูกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 ซม. พื้นบ้านชั้นล่างปูแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม. ส่วนพื้นบ้านชั้นบนปูพื้นไม้ลามิเนต 8 มม. สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Kohler, Englefield

ประตูและหน้าต่างภายในบ้านบานใหญ่ กรอบเป็น UPVC สีขาว กระจกเขียวตัดแสง ติดมาหลายบาน ทำให้บ้านมีความสว่าง โปร่งและไม่อับทึบ เรื่องการระบายอากาศก็เตรียมมาให้โอเค คือห้องน้ำทุกห้องมีหน้าต่างบานกระทุ้งติดมาให้ ในห้องครัวมีพัดลมดูดอากาศติดมาให้ช่วยระบายอากาศเพิ่มอีกแรง

♦ สิ่งอำนวยความสะดวก : มี Club House ที่มีสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส และสวนสาธารณะมาให้ ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่รอบๆ Club House ลงต้นไม้ใหญ่ เล็ก ให้ความร่มรื่นค่อนข้างเยอะ คือเน้นรักษาภูมิทัศน์ภายในโครงการ และรอบๆโครงการได้ดีค่ะ ถนนในโครงการมีปลูกต้นไม้ข้างทาง มีแนวพุ่มไม้ข้างรั้วตัดแต่งเป็นระเบียบ ทางเท้าปูหญ้าและวางแผ่นหินสำหรับเดินให้ ปรับปรุงถนนออนป้าซึ่งเป็นถนนภาระจำยอมให้ดูสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย มีแนวพุ่มไม้ตกแต่ง ทางเท้า ไฟถนน

♦ ระบบรักษาความปลอดภัย แบบ Double Security เข้า-ออกโครงการด้วย Key Card ระยะใกล้ + CCTV จับภาพป้ายทะเบียน และคนขับฝั่งละ 2 ตัว รั้วกั้นไม้กระดกอัตโนมัติ พร้อมประตูรั้วบานเลื่อนอีกชั้น เพื่อความปลอดภัย ภายในโครงการติดตั้ง CCTV ครบทุกซอย รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.ค่ะ ส่วนตัวบ้านมีสัญญาณกันขโมยติดแบบ Shock Senser และ Magnetic Sencer ให้ทุกหลัง เพิ่มความปลอดภัยไปอีกระดับ

คะแนน

ราคา

♦ Miro แปลง F02 เนื้อที่ 53.7 ตร.ว. ราคาปกติ 10,590,000 ราคาพิเศษ 10,390,000 บาท

– เงินจอง 100,000 บาท
– เงินทำสัญญา 200,000 บาท

♦ Miro แปลง F03/แปลงมุม เนื้อที่ 54.4 ตร.ว. ราคาปกติ 10,690,000 ราคาพิเศษ 10,390,000 บาท

– เงินจอง 100,000 บาท
– เงินทำสัญญา 200,000 บาท

♦ Parco แปลง C06/แปลงมุม เนื้อที่ 62.9 ตร.ว. ราคาปกติ 15,450,000 ราคาพิเศษ 14,450,000 บาท

– เงินจอง 100,000 บาท
– เงินทำสัญญา 200,000 บาท

♦ Parco แปลง 101/แปลงมุม เนื้อที่ 69.8 ตร.ว. ราคาปกติ 15,890,000 ราคาพิเศษ 14,890,000 บาท

– เงินจอง 100,000 บาท
– เงินทำสัญญา 200,000 บาท

สอบถามรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่

สำนักงานขาย : 02-183-5280

WEBSITE : www.apthai.com/บ้านเดี่ยว/the-city/the-city-สุขุมวิท-แยกบางนา/#gallery

หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

บ้านเดี่ยว เซนโทร ศรีนครินทร์-บางนา Centro Srinakarin-Bangna

CENTRO ศรีนครินทร์ – บางนา เตรียมพบบ้านหลังใหญ่ เริ่ม 4 ห้องนอน บนทำเลศรีนครินทร์ – บางนา … เร็วๆ นี้

แผนที่โครงการ

ถนนเฉลิมพระเกียรติร. 9 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.

คลิก เพื่อลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL :  1623

WEBSITE : http://goo.gl/dSmoUQ

EP.210 รีวิว บ้านเดี่ยว เดอะ ซิตี้ นวมินทร์ 53 The City Nawamin 53

สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ผมจะพาไปชมโครงการ The City นวมินทร์ 53 โครงการใหม่จาก AP ภายใต้แบรนด์ The City เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Modern Loft มีบ้านให้เลือก 3 แบบ บนเนื้อที่ดินเริ่มต้น 50 – 62 ตร.วา และพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 185 – 230 ตร.ม. บรรยากาศภายในโครงการเงียบสงบเป็นส่วนตัว พร้อม Club House 2 ชั้น และสวนสวยๆภายในโครงการ ในราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาท ส่วนรายละเอียดไปชมพร้อมๆกันได้เลยครับ

ที่ตั้งโครงการ

ซอยนวมินทร์ 53 ถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร

พิกัด : 13.787083, 100.646524

การเดินทางวันนี้เริ่มจากถนนรามคำแหงมุ่งหน้ามีนบุรี ขึ้นสะพานตรงหน้า The Mall รามคำแหง ลงสะพานมาเลี้ยวซ้ายไปบางกะปิ เลี้ยวขวาผ่านตลาดบางกะปิ และเลี้ยวซ้ายเข้าถนนนวมินทร์ ขับตรงไปเรื่อยๆตามถนนนวมินทร์ ซอยโครงการอยู่ซอยนวมินทร์ 53 ปากซอยมีร้านนิยาไก่ย่าง เลี้ยวเข้าไปสุดซอยก็จะถึงโครงการครับ

การเดินทางเข้าออกเมืองเส้นหลักโครงการคือนวมินทร์ 53 เป็นเส้นที่ไปเชื่อมกับถนนลาดพร้าว รามคำแหง ซึ่งสองเส้นนี้เชื่อมออกไปยังถนนที่สามารถเข้าออกเมืองได้สะดวกดีครับ อย่างเส้นลาดพร้าวจะวิ่งตรงอย่างเดียวก็ได้ไปออกรัชดา ห้าแยกลาดพร้าว จตุจักร เลยไปจนถึงอนุสาวรีย์ได้ ส่วนรามคำแหงก็จะไปออกพระรามเก้า เพชรบุรี เข้าเอกมัย ทองหล่อ สุขุมวิทได้ และมีทางด่วนให้ขึ้นอีกด้วยครับ นอกจากนี้ถนนนวมินทร์ยังเชื่อมกับถนนเสรีไทยสามารถไปมีนบุรี ออกฉะเชิงเทราได้ครับ

เริ่มกันที่ถนนรามคำแหงมุ่งหน้ามีนบุรี ซ้ายมือเป็น Foodland

จากนั้นจะเจอ The Mall รามคำแหงให้ขึ้นสะพานครับ

และจะเจอเมเจอร์ซ้ายมือ

จากนั้นจะเจอหัวหมากทาวน์เซ็นเตอร์ซ้ายมือ และ Big C

ถัดมาเป็นเมเจอร์ฮอลลีวูด ฝั่งขวาจะเป็นมหาลัยรามคำแหง

ลงสะพานมาให้ขับตามป้ายลาดพร้าวครับ

จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายไปบางกะปิ

ตามรถตู้ไปครับ ถ้าตรงไปจะไปมีนบุรีได้

จากนั้นให้เลี้ยวขวาครับ ไปมีนบุรีได้เช่นกัน ถ้าเลี้ยวซ้ายไปจะเจอเดอะมอลบางกะปิ

เลี้ยวขวามาจะเจอตลาดสดบางกะปิ คึกคักน่าดู

จากนั้นจะเจอห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่าซ้ายมือ

ขับตรงมาจะเจอแยกบางกะปิให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าถนนนวมินทร์

เลี้ยวมาก็เข้าสู่ถนนนวมินทร์ เส้นนี้ส่วนใหญ่เป็นสถานที่ราชการครับ

ซ้ายมือจะเจอสถานีตำรวจนครบาล ลาดพร้าว

จากนั้นจะเจอโรงเรียนบ้านบางกะปิ

เลยมาหน่อยจะเจอทางลัดไปถนนลาดพร้าวได้ ถ้าไปแถว The Mall บางกะปิเวลากลับก็มาเส้นนี้ได้ครับ

จากนั้นจะเจอสำนักงานที่ดินเขตบางกะปิ

ผ่านไฟแดงมาจะเจอสะพานข้ามคลองลำพังพวยให้ชิดซ้ายได้เลยหรือสังเกตป้ายนิตยาไก่ย่างไว้ ลงสะพานก็เลี้ยวเข้าซอยได้เลย

ตัวโครงการอยู่ในซอยนวมินทร์ 53

เลี้ยวเข้ามาจะเจอถนน 2 เลน ซ้ายมือปลูกต้นไม้เป็นแนวเข้าไปด้านใน ขวามือเป็นร้านอาหารนิตยาไก่ย่างแวะกินกันก่อนได้ครับ มีไก่ตัวใหญ่ยืนต้อนรับอยู่

ขับตรงเข้ามาจะเจอแยกขับตามลูกศรสีแดงขับ

ซอยโครงการคือสีแดง ส่วนซอยขวามือเป็นซอยบ้านของคนแถวนี้ครับ

เลี้ยวเข้าซอยมาจะเห็นต้นไม้เขียวๆสองฝั่งทาง ดูแล้วสบายตาดีครับ

ขับตรงไปเรื่อยๆครับ ซ้ายมือเราจะเห็นบ้านเดี่ยวของคนแถวนี้ 2-3 หลัง จะใช้ถนนเส้นนี้ร่วมกันครับ

ขับมาจนสุดซอยก็จะเจอทางเข้าโครงการ The City นวมินทร์ครับ

บริเวณโดยรอบโครงการ

โครงการ The City นวมินทร์ตั้งอยู่ในซอยนวมินทร์ 53 เส้นหลักที่ใช้คือถนนนวมินทร์ สถานที่สำคัญใกล้ๆโครงการปากซอยมีร้านอาหารนิตยาไก่ย่างร้านชื่อดังมีหลายสาขา ส่วนร้านสะดวกซื้อมีให้เห็นเป็นระยะๆ ตลาดสดใกล้ๆต้องมาแถวบางกะปิครับมีตลาดสดบางกะปิ เลยมาหน่อยมี The Mall บางกะปิ และตะวันนา เป็นแหล่งช็อปปิ้งของย่านบางกะปิเลยก็ว่าได้ หรืออย่างดูหนังใกล้ๆต้องไปแถวรามคำแหงครับมีเมเจอร์ และเมเจอร์ฮอลลีวูด ส่วนสถานศึกษาย่านนี้มีตั้งแต่อนุบาลจนถึงระดับปริญากันเลยทีเดียว ย่านนี้ค่อนข้างจะครบครันครับสะดวกดี

The City นวมินทร์ 53 พื้นที่โครงการออกแนวสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆ ถูกล้อมรอบไปด้วยบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ครับ บรรยากาศภายในโครงการจึงค่อนข้างเงียบสงบ

สถานที่สำคัญ

–แม็กซ์แวลู ทันใจ นวมินทร์ 63 : 0.5 กม.
–เทสโก้ โลตัส สุขาภิบาล 1 : 0.6 กม.
–ร.ร.นราธิปพิทยา : 0.7 กม.
– ร.ร.พระมารดานิจจานุเคราะห์ : 0.8 กม.
– ม.รัตนบัณฑิต(RBAC) : 1.4 กม.
–ร.ร.อนุบาลศรีนครพัฒนา : 1.7 กม.
– ร.ร.มัธยมบ้านบางกะปิ : 1.9 กม.
– เดอะมอลล์บางกะปิ : 2.7 กม.
– พันธุ์ทิพย์ พลาซ่าบางกะปิ : 2.7 กม.
– ตลาดสดบางกะปิ : 2.7 กม.

โครงการ

ทางเข้าโครงการเป็นซุ้มแบบมีหลังคา แยกทางเข้า-ออกซ้ายขวาโดยมีป้อมยามอยู่ตรงกลาง ประตูทางเข้าเป็นแบบเลื่อนอัตโนมัติสองตอน

ลูกบ้านที่นี่จะต้องใช้ Key Card แตะในการเข้าออก ส่วน Visitor ต้องแลกบัตรก่อนเข้าโครงการ มีกล้อง CCTV สำหรับบันทึกตรงป้อมยาม

ผ่านเข้ามาจะเจอถนนหลักกว้าง 12 รวมฟุตบาท สองฝั่งทางมีต้นไม้ปลูกเพื่อความร่มรื่น ฝั่งซ้ายในอนาคตจะเป็นพื้นที่ก่อสร้างยูนิตพักอาศัยครับ รั้วในโครงการจะสูง 3 ม.

ขับเข้ามาก็จะเจอศาลซ้ายมือ มีสนามหญ้าเล็กๆไว้เดินเล่นได้

ฝั่งซ้ายมีสนามหญ้าและชิงช้าสนาม ฝั่งขวาจะเป็นสวนและ Club House

ชิงช้าสนามวางอยู่ดูเหงาๆ บ้านด้านหลังชิงช้ามีประตูด้านข้างเดินออกมาใช้สนามหญ้าตรงนี้ได้สะดวกดีครับ

ฝั่งตรงข้ามชิงช้าเป็นสวยสวนกลางเหมือนกัน ในสุดเป็น Club House มีทางเดินเข้าไปได้ พร้อมไฟสนามริมทางเดิน

เดินเข้ามาจะเจอเนินสูง และต้นไม้ใหญ่ คงต้องรอให้โตอีกหน่อยจะได้ริ่มรื่น

มีจุดให้นั่งพักใต้ต้นไม้ได้ครับ เดินตรงเข้าไปด้านในจะมีบันไดขึ้นไปยังสระว่ายน้ำได้

มองกลับไปจะเห็นเนินสูงมีบันไดเดินขึ้นไปด้านบน

เดินขึ้นมาเจอที่นั่ง และราวโหนขวามือสีดำ

อีกฝั่งทำเป็นสไลเดอร์ ไว้สำหรับเด็กๆครับ มองลงไปเป็นสนามหญ้าโล่งๆ

มองไปยัง Club House สวยดีครับ

ถ่าย Club House อีกมุมให้ดู สระว่ายน้ำเป็นแบบน้ำล้น

มาดูด้านหน้า Club House มีป้ายบอก ตกแต่งล้อมรอบด้วยต้นไม้

ถัดมาจะเป็นทางขึ้น มีระแนงบังสายตา

เดินขึ้นมาซ้ายมือเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 และห้องน้ำแยกชาย-หญิง ขวามือเป็นสระว่ายน้ำ ตรงไปเป็นลานไว้นั่งเล่น

สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ สระเด็กจะอยู่ในร่มแบ่งส่วนไว้

ริมสระมีพื้นที่วางเตียงริมสระได้ ซ้ายมือเดินลงไปยังสวนได้

มองกลับไปจะเห็นที่ด้านใน ไว้นั่งรอเด็กๆเล่นน้ำได้

มองออกไปด้านข้าง Club House จะเห็นบันไดลงไปยังสวน

ลงไปที่สวนแล้วถ่ายมาให้ดูอีกรูปครับ

กลับมาด้านในต่อ ซ้ายมือเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ขวามือเป็นทางเข้าห้องน้ำชาย-หญิง

ภายในห้องน้ำชายมีถปัสสาวะ

ชุดอ่างล้างหน้า 1 ชุด มีช่องระบายอากาศบานกระทุ้งด้านบน

อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ 1 ห้อง และห้องอาบน้ำ 1 ห้อง

ภายในห้องอาบน้ำ

ภายในห้องน้ำ

ถัดมาเป็นห้องน้ำหญิง มีห้องน้ำ 2 ห้อง และห้องอาบน้ำ 1 ห้อง

ตรงข้ามเป็นอ่างล้างหน้า

เดินขึ้นชั้น 2 กันครับ

มองไปจะเห็นโถงบันไดโล่งๆ และห้องฟิตเนส

โถงบันไดชั้น 2 จะเป็นพื้นที่โล่งๆ มีราวกันตกเป็นกระจก

มองลงไปชั้น 1 เห็นที่นั่งด้านล่าง

ห้องฟิตเนสเป็นห้องกระจก

เดินเข้าไปจะเจอเครื่องออกกำลังกาย 6 เครื่อง มีเครื่องบริหารกล้ามเนื้อ, เครื่องเล่นซิทอัพ, ลู่วิ่งสายพาน, จักรยานปั่นอยู่กับที่, เครื่องเล่นซิทอัพ + ดับเบลครบชุด ผนังในสุดเป็นกระจกมองลงไปเห็นสระว่ายน้ำ และสวน

ห้องฟิตเนสมีแอร์ให้ 2 ตัว ฝั่งนี้มีหน้าต่างบานกระจกให้

ในห้องฟิตเนสมีห้องแยกออกไปอีกห้อง ใครจะใช้เป็นห้องโยคะ หรือกิจกรรมเล็กๆได้ครับ

ภายในห้องปูด้วยหญ้าเทียม มีแอร์ 1 ตัว

มีระเบียงมาให้เดินออกไปชมวิวสระว่ายน้ำและสวนได้

เดิรออกมาจะมีราวกันตกไว้

ระเบียงอีกมุม

มองลงไปเห็นสระว่ายน้ำ และสวนหย่อม

มองลงไปเห็นสวนหย่อมอีกมุม ถ้าต้นไม้โตกว่านี้หน่อยคงร่มรื่นดีนะครับ

HOUSE TYPE

โครงการนี้มีบ้านให้เลือก 3 แบบครับ

แบบแรก : MASSO ขนาด 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม. แบบ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาท

ภายนอกบ้านแบบ Masso

แปลนบ้าน Masso

แบบที่สอง : ASTOR ขนาด 55 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 205 ตร.ม. แบบ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน ราคาเริ่มต้น 9.5 ล้านบาท

ภายนอกบ้านแบบ Astor ตอนนี้เป็นสำนักงานขายอยู่ครับ

แปลนบ้านแบบ Astor

แบบที่สาม : ELLA ขนาด 62 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 230 ตร.ม. แบบ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน 1 เรือนรับรอง ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท

ภายนอกบ้านแบบ Ella

แปลนบ้านแบบ Ella

บ้านตัวอย่าง

บ้านตัวอย่างที่จะพามาชมวันนี้เป็นแบบ MASSO ขนาด 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม. แบบ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เป็น Type เล็กสุดของโครงการครับ

ภายนอกบ้านโทนสีเทาเข้ม เทาอ่อน และตกแต่ง Facade ด้วยระแนง รอบๆบ้านตกแต่งด้วยไม้พุ่ม บ้านของจริงจะมีรั้วโปร่งให้ด้วยครับความสูงระมาณ 1.5 ม.

ที่จอดรถจอดได้ 2 คัน มีไฟดาวน์ไลท์ 2 ดวง มีประตูเข้าบ้านจากที่จอดรถได้

พื้นที่จอดรถของจริงเป็นคอนกรีตขัดมัน โครงสร้างแยกออกจากตัวบ้าน โรยหินกรวดรอบๆพื้น

ไปดูรอบๆบ้านกันก่อนครับ ข้างที่จอดรถมีทางเดินออกไปได้

ด้านข้างบ้านของจริงจะมีรั้วบ้านนะครับ บ้านตัวอย่างได้ทำไว้ให้ ในสุดจะเห็น Tank น้ำตั้งอยู่โครงการแถมให้ครับ

เดินมาหลังบ้านจะเจอ Tank น้ำซ้ายมือ และปั๊มน้ำขวามือ ติดกันจะเห็นประตูที่ออกจากห้องครัวครับ

ลานซักหลังบ้านเดินท่อน้ำดี น้ำเสีย และปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบเรียบร้อย

เดินมาด้านข้างบ้านอีกฝั่ง มีประตูกระจกเชื่อมกับส่วนรับประทานอาหารในบ้าน พื้นที่ฝั่งนี้เหลือพอประมาณ จัดสวนสวยๆได้ครับ

เงยหน้ามองไปข้างบนจะเห็นแบบนี้ครับ

เดินมาถึงหน้าบ้านแล้ว มีเฉลียงหน้าบ้าน ประตูเข้าบ้านเป็นกระจกบานเลื่อนกรอบ UPVC สีขาว

ตัวล็อกประตูด้านนอก

เฉลียงหน้าบ้านปูกระเบื้องมาให้ ขนาดประมาณ 4.25 x 1 ม.

ไฟหน้าบ้านเป็นกล่องสีดำอยู่ด้านซ้าย และขวาของประตู ผนังตรงประตูหน้าบ้านตกแต่งด้วยหินทราย

เดินเข้ามาในบ้านเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน เชื่อมกับส่วนรับประทานอาหารด้านใน ซ้ายมือเป็นทางเดินเข้าห้องนอน 4 ห้องน้ำ และห้องครัว พื้นชั้น 1 ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังจะได้วอลเปเปอร์ ฝ้าสูง 2.8 ม.

วางโซฟาขนาด 4 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง มีพื้นที่เหลือพอสำหรับโซฟารูปตัว L

ระยะดูทีวีประมาณ 3 ม. ดูจอใหญ่ๆกำลังดีครับ

เทียบกับบ้านมาตรฐานตรงส่วนห้องนั่งเล่นจะได้แบบนี้ครับ ไฟได้เป็นแบบดาวน์ไลท์ทั้งหลัง

ถัดมาจะเป็นส่วนรับประทานอาหาร ขวามือมีประตูกระจกบานเลื่อนออกไปข้างบ้านได้ ตกแต่งสวนสวยๆคงจะดีครับ ด้านหลังมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 2 บาน

วางชุดรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งให้ดูระยะรอบๆ หรือใครชอบแบบโต๊ะกลมก็วางได้ครับ

เทียบกับบ้านมาตรฐานได้แบบนี้

ตรงส่วนรับประทานอาหารมีทางเดินเข้าไปอีกส่วนของบ้าน

เดินเข้ามาซ้ายมือเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ถัดไปเป็นประตูออกที่จอดรถ ขวามือเป็นห้องนอน 4 ถัดไปเป็นห้องน้ำ ในสุดเป็นห้องครัวครับ

ห้องนอน 4 ห้องนี้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานได้ โครงการตกแต่งเป็นห้องทำงานให้ดูเป็นไอเดีย แต่ถ้าบ้านใครมีผู้สูงอายุจะทำเป็นห้องนอนชั้นล่างก็ได้ครับ สะดวกกว่าเดินขึ้นลงบันได

ห้องทำงานห้องนี้ตกแต่งเป็นเหมือนห้องออกแบบเสื้อผ้า งานดีไซน์เก๋ๆ

ถ่ายให้ดูอีกมุมครับ

เทียบกับบ้านมาตรฐานห้องนี้ขนาดประมาณ 2.8 x 2.6 ม. พื้นห้องนี้ได้เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.

เดินออกมาจากห้องนอน 4 หรือห้องทำงาน ซ้ายมือจะเจอประตูที่ออกไปที่จอดรถได้ ส่วนขวามือเป็นห้องน้ำครับจะอยู่ติดกับห้องครัว

มือจับเป็นแบบคันโยก

เปิดออกไปจะเจอบันได 1 ขั้น และพื้นที่จอดรถ

ภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้าน

โถสุขภัณฑ์ของ Kohler พร้อมสายชำระ และที่ใส่กระดาษทิชชู่ ขวามือชุดออ่างล้างหน้าของ Kohler เช่นกัน ผนังเหนืออ่างล้างหน้าทำเป็น Low Wall วางของได้

ด้านในสุดเป็นพื้นที่ส่วนเปียก มีช่องแสงด้านในสุดเป็นบานกระทุ้ง 1 บานเปิดระบายอากาศได้

ชุดฝักบัว พร้อมเจาะช่องที่ผนังไว้สำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำ

หน้าตาฝักบัวเมื่อเทียบกับมือพอเหมาะมือ

พื้นที่ส่วนเปียกขนาดประมาณ 0.90 x 0.98 ม.

พื้นห้องน้ำจะต่ำกว่าพื้นบ้านกันน้ำเลอะเทอะด้านนอก

หน้าห้องน้ำมีช่องแสงบานใหญ่เป็นบานติดตายมองออกไปเป็นที่จอดรถครับ ตรงหน้าเราเป็นประตูกระจกบานเลื่อนเข้าห้องครัวครับ

เลื่อนออกมาจะเห็นพื้นห้องครัวลดระดับต่ำกว่าพื้นบ้าน

เดินเข้ามาภายในห้องครัว

ชุดครัวของจริงไม่ได้แถมให้แบบนี้นะครับ ขวามือมีหน้าต่างและประตูหลังบ้าน

หน้าต่างเป็นบานเกร็ดซ้ายมือ ติดกันเป็นประตูออกหลังบ้านครับ

เปิดออกจะเจอลานซักหลังบ้านครับ

เทียบกับบ้านมาตรฐานในครัวจะได้แค่นี้ครับ Top เป็นหินดำ

Sink ล้างจานได้แบบหลุมเดียวพร้อมที่พักจาน

ใต้ Sink มีตู้เก็บของมาให้เป็นบานเปิด

กลับมาในบ้านต่อ ตรงบันไดขึ้นชั้น 2 มีตู้เก็บของใต้บันไดให้

เปิดออกมาจะเป็นแบบนี้ครับพื้นที่ภายในเก็บของได้พอสมควร สังเกตด้านในขวามือจะเห็นระบบไฟในบ้านมาซ่อนไว้ในนี้ครับ

บันได้เป็นไม้สำเร็จรูปสีเดียวกับราวจับ

มองไปด้านบนจะเห็นช่องแสงเป็นบานติดตาย ส่วนด้านล่างเป็นบานกระทุ้งเปิดปิดได้

เดินขึ้นมาจะเจอโถงชั้น 2 ที่สามารถทำเป็นห้องนั่งเล่นได้

มองกลับลงไปจะเห็นชานพักบันได

เทียบกับบ้านมาตรฐานจะได้แบบนี้ครับ

โถงส่วนนี้ใครจะทำเป็นห้องนั่งเล่น หรือห้องพระก็ได้ครับ พื้นชั้น 2 จะเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ฝ้าสูง 2.8 ม.

วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งให้ดู พร้อมโต๊ะกลาง

ระยะดูทีวีประมาณ 2.6 ม.

เทียบกับบ้านมาตรฐานจะได้แบบนี้

ติดกับโถงส่วนนี้จะเป็นห้อง Master Bedroom

เดินเข้ามาจะเจอเตียง King Size วางให้ดูระยะ

พื้นที่ข้างเตียงเหลือพอจะวางโซฟา และ อาร์มแชร์ได้

พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 0.90 ซม.

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 75 ซม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 3.7 ม.

ห้องนี้จะมีระเบียงให้ด้วย พร้อมประตูกระจกบานเลื่อน

พื้นที่ระเบียงขนาด 4 x 0.65 ม. ราวกันตกเป็นกระจกสวยดีครับ

ถ่ายอีกฝั่งให้ดูครับ

กลับเข้ามาด้านในต่อฝั่งตรงข้ามจะมีห้องน้ำในตัว และพื้นที่สำหรับทำ Walk in closet ได้

ทำตู้เสื้อผ้าให้ดู พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง

ห้องน้ำจะอยู่อีกฝั่ง

ในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกมาให้ มีช่องระบายอากาศซ้ายมือ

ชุดอ่างล้างหน้า และกระจกบานใหญ่

อ่างล้างหน้าของ Kohler พร้อมเคาน์เตอร์วางอุปกรณ์ได้เยอะหน่อย

ฝั่งตรงข้ามอ่างล้างหน้าเป็นโถสุขภัณฑ์พร้อมสายชำระของ Kohler

ด้านในสุดเป็นพื้นที่ส่วนเปียก มีฉากกั้นมาให้เป็นกระจก Tempered ประตูเปิดเข้าด้านใน

ชุดฝักบัวปรับระดับสูงต้ำได้ พร้อมช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำ

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 0.73 x 1.1 ม.

พื้นห้องน้ำระดับต่ำกว่าพื้นห้องปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. แบบเงาตรงส่วนแห้ง และแบบด้านตรงส่วนเปียก

เทียบกับบ้านมาตรฐานจะได้แบบนี้

เทียบกับบ้านมาตรฐานตรงส่วน Walk in closet

กลับออกมาตรงโถงด้านนอก ตรงข้ามทางเข้าห้อง Master Bedroom จะเป็นห้องนอน 2 (ซ้ายมือ) ห้องนอน 3 อยู่ตรงหน้า ส่วนขวามือเป็นห้องน้ำครับ

ภายในห้องนอน 2 จะอยู่ฝั่งโซนหน้าบ้าน

พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 70 ซม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.7 ม.

อีกฝั่งวางตู้เสื้อผ้าและชุดโต๊ะเครื่องแป้งให้ดู ยังมีพื้นที่เหลือพอจะทำตู้บานใหญ่ๆได้

เทียบกับบ้านมาตรฐาน

เทียบกับบ้านมาตรฐานอีกมุม

ห้องนอน 3 จะอยู่โซนมุมหลังบ้าน

วางเตียงเดี่ยวให้ดูระยะ พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 55 ซม.

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1 ม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.7 ม.

วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งให้ดู

เทียบกับบ้านมาตรฐาน

ห้องน้ำชั้น 2 ส่วนเปียกจะอยู่ในสุด มีช่องแสงเป็นบานกระทุ้งมาให้ 1 บานเปิดระบายอากาศได้

สุขภัณฑ์เป็นของ Kohler

ชุดฝักบัว พร้อมเจาะช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้

พื้นที่ส่วนเปียกประมาณ 1 x 0.90 ม.

พื้นห้องน้ำระดับต่ำกว่าพื้นช้ัน 2

ชุดปลั๊กและสวิตซ์ไฟของ Bticino ทั้งหมด แผงควบคุมระบบสัญญาณกันขโมยจะมีให้ทุกหลัง เป็นระบบ Magnetic & Motion Sensor เมื่อมีการงัดแงะจะมีสัญญาณดังขึ้น จะส่งสัญญาณให้ รปภ. และเมื่อมีการเปิดประตู หน้าต่าง ส่วนที่เข้าออกนอกบ้านได้จะมีเสียงเตือน

บทสรุปโครงการ

ทำเลโดยรอบ The City นวมินทร์ 53 ตั้งอยู่ในซอยนวมินทร์ 53 เข้าซอยไม่ได้ลึกมาก เกือบจะติดกับถนนหลักอย่างถนนนวมินทร์ บรรยากาศโครงการค่อนข้างเงียบสงบเนื่องจากส่วนใหญ่รอบๆเป็นบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ ไม่พลุกพล่านเท่าไหร่ ค่อนข้างเป็นส่วนตัวครับ สถานที่สำคัญใกล้เคียงส่วนใหญ่จะอยู่ช่วงแยกบางกะปิห่างจากโครงการประมาณ 2.7 กม. มีทั้งตลาดสด ห้างสรรพสินค้า The Mall และแหล่งช้อปปิ้งต่างๆ นอกจากนี้ยังใกล้แหล่งสถานศึกษาซึ่งมีตั้งแต่ระดับอนุบาล จนถึงระดับปริญญา เช่น ร.ร.บ้านบางกะปิ, ร.ร.โสมาภา2, ม.รามคำแหง, ม.รัตนบัณฑิต, NIDA รวมไปถึงสถานีตำรวจ และสถานพยาบาลด้วยครับ

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว จากโครงการเข้าออกได้สะดวกไม่ได้เข้าซอยลึกมาก ถ้าจะเข้า-ออกเมืองก็มาใช้เส้นลาดพร้าววิ่งยาวอย่างเดียวจะไปออกรัชดา ห้าแยกลาดพร้าว จตุจักร และอนุสาวรีย์ชัยฯได้ หรือเส้นรามคำแหงก็ได้จะไปออกพระรามเก้า เข้าเอกมัย ทองหล่อ สุขุมวิทก็สะดวกดีครับ และมีทางด่วนให้ขึ้นใกล้ๆอีกด้วย แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องรถติดหน่อยในบางช่วงเวลา แต่โดยรวมถือว่าสะดวกพอสมควร

การเดินทางโดยรถสาธารณะ ออกมาหน้าปากซอยนวมินทร์ 53 มีป้ายรถเมล์โบกขึ้นได้เลยมีรถวิ่งผ่านหลายสาย หรือจะเรียก Taxi ก็ได้ครับมีวิ่งตลอดทั้งคืน หรือถ้าใครชอบเดินทางด้วยเรือ สามารถไปใช้บริการเรือคลองแสนแสบได้ที่ท่าเรือบางกะปิ และท่าเรือเดอะมอลล์บางกะปิครับ ระยะห่างจากโครงการประมาณ 3 กม. ในอนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองจะผ่านแถวๆสี่แยกบางกะปิ แต่คงต้องรออีกหน่อย ถ้าสร้างเสร็จพร้อมใช้ขึ้นรถไปต่อรถไฟฟ้าได้ที่นี่ก็สะดวกดี

แบบบ้าน ที่นี้ทำออกมาให้เลือกตามขนาดของผู้อยู่อาศัยได้ลงตัว ตั้งแต่ตัวภายนอกบ้านดูทันสมัยออกแนว Modern Loft สีแต่ละหลังออกโทนเดียวกันคือ เทา เทาเข้ม ครีม ฝ้าสูง 2.8 ม. ดูโปร่ง เน้นกระจกเป็นส่วนใหญ่ทำให้รับแสงเข้าไปยังในบ้านได้ ถ้านอกบ้านจัดสวนสวยๆได้วิวดีแน่นอน แต่ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ของบ้านด้วย การจัดวางตำแหน่งของห้องต่างๆในบ้านทำออกมาได้เป๊ะครับแยกเป็นสัดส่วน บ้านตัวอย่างตกแต่งมาได้สวย ทำออกมาดูน่าใช้งานดีครับ

วัสดุในบ้าน ได้ของมีคุณภาพสมราคาดี เริ่มตั้งแต่ประตูหน้าบ้าน และหน้าต่างทุกบานได้กระจกใสเขียวตัดแสงบานเลื่อนกรอบประตูเป็น UPVC สีขาว พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. และในห้องนอน 4 และพื้นชั้น 2 เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังจะได้เป็นวอลเปเปอร์ทั้งหลังแต่ละห้องสีจะไม่เหมือนกันครับ ไฟได้ดาวน์ไลท์ทุกห้อง ห้องครัว Built-in ชุดครัวให้เป็นเคาท์เตอร์สำเร็จรูปท็อปหินสีดำ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้ของ Kohler ทั้งหมด บ้านทุกหลังติดตั้งสัณญาณกันขโมยแบบ Magnetic และ Shock Sensor

สาธารณูปโภค Club House ส่วนกลาง 2 ชั้น มีสระว่ายน้ำระบบเกลือแยกสระเด็ก และสระผู้ใหญ่ไว้ มีมุมสำหรับนั่งเล่น มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำรองรับ แยกชาย-หญิงเป็นสัดส่วน ชั้น 2 มีห้องออกกำลังกายวางเครื่องออกกำลังกายมา 6 เครื่อง มีห้องอเนกประสงค์ไว้ทำกิจกรรมอย่างโยคะได้ ผนังในห้องเป็นกระจกมองออกไปเห็นสระว่ายน้ำและสวน รอบๆ Club House จัดเป็นสวนหย่อมมีทั้งไม้ใหญ่ และไม้พุ่ม ตกแต่งได้สวยงาม มีมุมนั่งเล่นใต้ต้นไม้ พร้อมกับเนินสนามเด็กเล่น ถนนหลักโครงการกว้าง 12 ม. ถนนซอยกว้าง 8 ม.

ระบบรักษาความปลอดภัยมี ร.ป.ภ. ตลอด 24 ชม. ประตูทางเข้าโครงการลูกบ้านต้องแตะ Key Card เข้าออก และประตูจะเลื่อนเปิดอัตโนมัติ ส่วน Visitor ต้องแลกบัตรก่อนครับ ตรงประตูเข้าออกติดตั้ง CCTV ไว้ 2 จุด และภายในโครงการอีก 36 จุด ลูกบ้านที่อยู่ในโครงการนี้ก็อุ่นใจได้ในระดับนึงครับ

คะแนน

ราคา

– แบบบ้าน MASSO ขนาด 50 ตร.วา | พื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาท

– แบบบ้าน ASTOR ขนาด 55 ตร.วา | พื้นที่ใช้สอย 205 ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น 9.5 ล้านบาท

– แบบบ้าน ELLA ขนาด 62 ตร.วา | พื้นที่ใช้สอย 230 ตร.ม.
ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท

** เงินจอง : 100,000 บาท
** เงินทำสัญญา : 100,000 บาท

**ค่าสาธารณูปโภค : 46 บาท/ ตร.ม.

โปรโมชั่นติดต่อได้ที่สำนักขาย*

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 1623

WEBSITE : http://www.apthai.com/

บ้านเดี่ยว มายด์ พระราม 2-สาทร MIND Rama 2-Sathorn

THE MODERN SIDE OF GOOD LIFE MIND สถาปัตยกรรมบ้านโมเดิร์นรีไฟน์แบบ 3 ชั้น ที่ผ่านขบวนการคิดอย่างรอบคอบ เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตเมืองที่เคลื่อนไหวอย่างมีพลัง ในทำเลที่เชื่อมติดความสะดวกสบายของเมืองได้อย่างครบถ้วนและออกแบบพื้นที่ความสุขใหม่ ในการใช้ชีวิตและการใช้สอยในทุกตารางนิ้วของบ้านได้อย่างมีอิสระและสร้างสรรค์ ราคาเริ่มต้น 9.69 ล้านบาท*

ที่ตั้งโครงการ

พระราม 2 ซ. 28 เขตจอมทอง กทม.

HOUSE TYPE

REFINED 453

บ้านโมเดอร์นรีไฟน์ 3 ชั้น
ให้พื้นที่ความสุขเติมเต็มทุกชีวิต
พื้นที่ใช้สอย 234 ตรม.
4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ, ห้องรับแขก,
ห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร,
ครัวไทย, ที่จอดรถ 4 คัน

แปลนบ้าน

REFINED 553

บ้านโมเดอร์นรีไฟน์ 3 ชั้น
ดีไซน์ใหม่ครบทุกฟังก์ชั่น
เพื่อวิถีชีวิตเมืองสมบูรณ์แบบ
พื้นที่ใช้สอย 235 ตรม.
5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ, ห้องรับแขก,
ห้องอเนกประสงค์, ห้องรับประทานอาหาร,
ครัวไทย, ห้องแม่บ้าน, ที่จอดรถ 3 คัน

แปลนบ้าน

REFINED 653

บ้านโมเดอร์นรีไฟน์ 3 ชั้น
ดีไซน์เพิ่มขนาดพื้นที่ความสุขให้ทุกคน

พื้นที่ใช้สอย 256 ตรม.
5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ, ห้องรับแขก,
ห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร,
ครัวไทย, ห้องแม่บ้าน, ที่จอดรถ 3 คัน

แปลนบ้าน

GALLERY

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 1623 / 0-2261-2518

WEBSITE : http://www.apthai.com/

ครั้งแรกในวงการอสังหาฯ ‘เอพี ไทยแลนด์’ เปิด “เอพี อะคาเดมี่” สถาบันการเรียนรู้ครบวงจร ยกระดับคุณภาพธุรกิจอสังหาฯ ไทย ทั้งบริหาร บริการ ออกแบบ ก่อสร้าง ซื้อขาย – มิตซูบิชิ เอสเตทฯ  พันธมิตรยักษ์ใหญ่ทางธุรกิจสัญชาติญี่ปุ่นร่วมยินดีและสนับสนุนแลกเปลี่ยนองค์ความรู้

กว่า 70 ล้านบาทต่อปี ยกระดับคุณภาพบุคลากรเอพี พร้อมเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาฝึกงาน เรียนรู้การทำงานด้วยประสบการณ์จริงกับมืออาชีพ เตรียมความพร้อมสู่ตลาดแรงงานไทย

• เปิดโลกทัศน์สังคมแห่งการเรียนรู้ ปั้น “คนคุณภาพ” ทั้งภายในและนอกองค์กร รองรับการเติบโตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ชูแนวคิด “รู้ลึก สร้างสรรค์ ทำจริงพร้อมด้วยคุณภาพ”

• อสังหาฯ รายแรกของไทย ที่ลงทุนจัดทำ “โมบาย แอพพลิเคชั่น – เอพี อะคาเดมี่” เพื่อรองรับการเรียนรู้อย่างเป็นระบบและอินเตอร์แอคทีฟให้กับบุคลากร

• มิตซูบิชิ เอสเตทฯ พันธมิตรธุรกิจ ร่วมสนับสนุนฝึกอบรมทักษะความรู้และศึกษาดูงาน ณ ประเทศญี่ปุ่น

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ด้านที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ประกาศเปิดตัว “เอพี อะคาเดมี่” (AP Academy) สถาบันเพื่อการเรียนรู้ครบวงจรด้านอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกในประเทศไทยครอบคลุมทั้งการบริหารบริการ ออกแบบ ก่อสร้าง และซื้อขาย ชูแนวคิด “รู้ลึก สร้างสรรค์ ทำจริงพร้อมด้วยคุณภาพ”

มุ่งพัฒนาทรัพยากรบุคคลอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งแบ่งปันองค์ความรู้และประสบการณ์สู่บุคคลภายนอกองค์กร อาทิ นิสิตนักศึกษา ด้วยประสบการณ์แบบมืออาชีพได้มาตรฐานสากลกว่าสองทศวรรษของเอพี

รวมถึงการสนับสนุนด้านการฝึกอบรมทักษะความรู้และการศึกษาดูงานยังประเทศญี่ปุ่นกับมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป พันธมิตรยักษ์ใหญ่ทางธุรกิจสัญชาติญี่ปุ่นของเอพี ไทยแลนด์ โดยเตรียมงบสนับสนุนต่อปีมากกว่า 70 ล้านบาท

ในโอกาสนี้ นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) ได้เป็นประธานในพิธีเปิดสถาบันเอพี อะคาเดมี่ และแสดงวิสัยทัศน์ พร้อมด้วย นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานทรัพยากรบุคคล และผู้อำนวยการสถาบันเอพี อะคาเดมี่ เป็นผู้ให้รายละเอียด โดยมี มร. ฮิเดกิ นิชิคามิ และ มร. โทโมฮิโกะ อิกุชิ สองผู้บริหารระดับสูง ตัวแทนจาก มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป พันธมิตรธุรกิจร่วมยินดี

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) ตระหนักถึงความสำคัญของทุกขั้นตอนในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่การออกแบบก่อสร้าง การตลาด การขาย การดูแลหลังการขาย ไปจนถึงบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อย่างมีคุณภาพ

โดยมีทรัพยากรบุคคลเป็นหัวใจสำคัญ เราเตรียมการอย่างต่อเนื่องมากว่า 5 ปี และใช้งบไปแล้วมากกว่า 300 ล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิด เอพี อะคาเดมี่ สถาบันเพื่อการเรียนรู้ครบวงจรด้านอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกของเมืองไทย อย่างเป็นทางการในวันนี้”

“เอพี อะคาเดมี่ คือ สถาบันด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งมั่นในการสร้าง ‘คนคุณภาพ มีความเป็นมืออาชีพ’ สู่วงการอสังหาริมทรัพย์ไทยและสังคมไทย โดยมีพันธกิจและโครงสร้างหลัก 3 ประการ ได้แก่

1. เอพี พร็อพเพอร์ตี้ สคูล (AP Property School) มีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพ ทักษะ ความรู้ ความสามารถให้กับบุคลากรของเอพี ไทยแลนด์

2. เอพี โอเพ่นเฮ้าส์ (AP Open House) ที่มีเป้าหมายในการถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และโอกาสในการฝึกฝนความคิดและทักษะให้กับนิสิตนักศึกษาฝึกงาน

เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ชีวิตการ-ทำงานหลังจากสำเร็จการศึกษา และ 3. เอพี ซิมโพเซียม (AP Symposium) ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการเปิดกว้างด้านการแบ่งปันความรู้ นวัตกรรม ตลอดจนเปิดโลกทัศน์และสร้างแรงบันดาลใจด้านการออกแบบบริหารพื้นที่ ใช้สอย

โดยมีวิทยากรชั้นนำทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาแลกเปลี่ยนความรู้ให้กับนักเรียน นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไปที่สนใจได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง” คุณอนุพงษ์กล่าว

“เรารักในสิ่งที่เราทำ เราตระหนักดีว่าหัวใจสำคัญในการจะพัฒนาวงการอสังหาริมทรัพย์และประเทศได้ก็คือ ‘คน’ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) จึงมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าใน ‘การสร้างคนคุณภาพ และมีความเป็นมืออาชีพ’ เราถือเป็นผู้ประกอบการรายแรกที่ก้าวเข้ามาบุกเบิก และทุ่มงบประมาณอย่างต่อเนื่องในการสร้างบุคลากร เพื่อให้เราสามารถก้าวไปอีกขั้นในการพัฒนาบ้านและที่อยู่อาศัยคุณภาพ

ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า เป็นระบบ และครบวงจร เราจึงจัดสรรงบประมาณกว่า 70 ล้านบาทต่อปี เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของเอพี อะคาเดมี่ นอกจากนี้เรายังเป็นผู้ประกอบการอสังหาฯ รายแรกของไทยที่ลงทุนจัดทำ ‘โมบาย แอพพลิเคชั่น – เอพี อะคาเดมี่’ เพื่อรองรับการเรียนรู้อย่างเป็นระบบและอินเตอร์แอคทีฟให้กับบุคลากร และทำแนวคิด ‘รู้ลึก สร้างสรรค์ ทำจริงพร้อมด้วยคุณภาพ’ ให้เกิดเป็นรูปธรรม นับเป็นการลงทุนสำคัญเพื่อความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ทั้งสำหรับ เอพี และวงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย” คุณอนุพงษ์กล่าว

เอพี อะคาเดมี่ ได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากพันธมิตรทางธุรกิจ มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป (Mitsubishi Estate Group หรือ MEC) ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นอกจากการผสานความร่วมมือในด้านการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในเมืองแล้ว ยังได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดด้านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ทักษะ และนวัตกรรมทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่แต่ละฝ่ายมีจุดแข็ง

ซึ่งรวมถึงการส่งผู้เชี่ยวชาญมาเป็นวิทยากรและการนำพนักงานไปศึกษาดูงานของกันและกันอีกด้วย ล่าสุด (30 กันยายน 2558) บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) และ MEC ได้ลงนามความร่วมมือร่วมทุนพัฒนาคอนโดมิเนียมในแนวรถไฟฟ้าร่วมกันเป็นโครงการที่ 8 มูลค่าประมาณ 2,600 ล้านบาท (เพิ่มเติมจากที่ได้ลงนามร่วมทุนพัฒนาโครงการก่อนหน้านี้มูลค่า 23,650 ล้านบาท)

นับเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ เพราะญี่ปุ่น ทั้งในระดับบุคคลและองค์กร ขึ้นชื่อว่าให้ความสำคัญกับคุณภาพและรายละเอียดเป็นอย่างมาก การที่ MEC ขยายความร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับบมจ. เอพี (ไทยแลนด์)

นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่ MEC มีต่อศักยภาพ คุณภาพโครงการและการดำเนินงานของบมจ. เอพี (ไทยแลนด์) รวมถึงศักยภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของ MEC ในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในเมืองไทยอย่างแข็งแกร่งและยาวนานกับบมจ. เอพี (ไทยแลนด์)

นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานทรัพยากรบุคคล บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) และผู้อำนวยการสถาบันเอพี อะคาเดมี่ ให้รายละเอียดว่า “เอพี พร็อพเพอร์ตี้ สคูล มีกลุ่มเป้าหมายหลักคือบุคลากร เอพี (ไทยแลนด์) เพื่อสร้างความพร้อม พัฒนาบุคลากร และยกระดับมาตรฐานการทำงานอย่างมีระบบ ตามหลักปรัชญาของคุณอนุพงษ์ อัศวโภคิน ซีอีโอของเรา คือ ‘จะสร้างบ้านที่ดีได้ คนสร้างต้องดีก่อน’ เราจึงได้พัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมบุคลากรในทุกๆ ระดับของแต่ละแผนกอย่างครอบคลุมและต่อเนื่อง

ประกอบไปด้วย 5 หลักสูตร คือ หลักสูตรงานบริหารการก่อสร้าง การบริหารงานขายและบริการ การบริหารจัดการงานบริหารซ่อมบำรุง การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ การพัฒนาศักยภาพบุคลากร รวมถึง การส่งบุคลากรไปศึกษาดูงานและแลกเปลี่ยนทักษะความรู้กับ MEC ที่ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย”

“สำหรับเอพี โอเพ่นเฮ้าส์ คือ การเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา ในสายงานการพัฒนาที่อยู่อาศัย ได้มาฝึกอบรม เรียนรู้กระบวนการทำงานจริงแบบเจาะลึกกับเอพี เราตระหนักดีว่านักเรียน นิสิต นักศึกษาไทยต้องการโอกาสในการ-ได้รับประสบการณ์จากการที่ได้ลงมือทำงานจริง เพื่อให้ทำงานได้จริงและมีประสิทธิภาพเมื่อสำเร็จการศึกษา เช่นเดียวกับระบบการศึกษาในประเทศชั้นนำต่างๆ

ที่ให้ความสำคัญกับการให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์จริงในการทำงาน ไม่เพียงแต่รู้เชิงทฤษฎี เอพี โอเพ่นเฮ้าส์จึงได้วางโครงสร้างหลักสูตรนี้ไว้ 3 เดือน โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญของเอพีกว่า 50 คนคอยดูแลแนะนำอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้เข้าร่วมฝึกงานได้รับประสบการณ์ตั้งแต่งานพื้นฐานของสายงานแต่ละส่วน รวมไปถึงด้านมาตรฐานการก่อสร้างและควบคุมคุณภาพ ที่เราเปิดโอกาสให้ปฏิบัติงานอย่างจริงจัง” คุณภูมิพัฒน์กล่าว

นิสิตนักศึกษาที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรเอพี โอเพ่นเฮ้าส์จะได้รับประกาศนียบัตรจากเอพี อะคาเดมี่ รวมถึงโอกาสเข้าร่วมงานกับเอพี นอกจากนี้ เอพียังเตรียมพัฒนาโปรแกรมการเรียนรู้ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น ด้วยการส่งตัวแทนเยาวชนไปศึกษาดูงานที่ญี่ปุ่นกับ MEC ต้นแบบของการก่อสร้างและบริหารอสังหาริมทรัพย์มาตรฐานระดับโลก

ในส่วนของ ‘เอพี ซิมโพเซียม’ คือ เวทีเสวนางานดีไซน์สุดล้ำที่เอพีจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา ดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ และประชาชนทั่วไปได้เข้าร่วมโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ในการจัดฝึกอบรมแต่ละครั้ง เน้นการนำเสนอนวัตกรรมและแนวคิดใหม่ๆ ในการออกแบบ โดยเชิญวิทยากร กูรูด้านออกแบบผู้มีชื่อเสียงทั้งไทยและเทศมาร่วมให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจเป็นสำคัญ

คุณภูมิพัฒน์กล่าวเพิ่มเติมว่า “เอพี ซิมโพเซียมจัดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 ปี 2557 ภายใต้หัวข้อ ‘Every Inch Matters Principles of Japanese Design’ โดยได้รับเกียรติจากสถาปนิกชั้นนำของ Mitsubishi Jisho Sekkei (MJS) ประเทศญี่ปุ่น และครั้งที่ 2 ปี 2558 ภายใต้หัวข้อ ‘Naoto Space Talk by Naoto Fukasawa’               

เราเลือกชูจุดเด่นด้านการออกแบบที่เอพีให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการ ‘พื้นที่ใช้สอย’ อย่างคุ้มค่า ในบริบทที่สอดรับกับพฤติกรรมของคนเมืองในปัจจุบัน ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญประการหนึ่งด้านโครงการคอนโดมิเนียมของเอพี ไทยแลนด์ การจัดงานเสวนาทั้งสองครั้งที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับดีเยี่ยมจากนิสิตนักศึกษา ประชาชนทั่วไป และคนดังด้านการออกแบบกว่า 1,000 คน เราเตรียมจัดครั้งต่อไปภายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2559 รับรองได้ว่าจะน่าสนใจไม่แพ้ครั้งที่ผ่านๆ มาอย่างแน่นอน”

“เอพี มุ่งหวังให้เอพี อะคาเดมี่เป็นเหมือนสถาบันการเรียนรู้และมหาวิทยาลัยด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดกว้างสำหรับทุกคน ทั้งบุคลากรในสายงาน เพื่อจะได้ส่งมอบสินค้าและบริการของเอพีสู่มือลูกค้าอย่างมีคุณภาพและได้มาตรฐาน นิสิตนักศึกษาที่จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญในตลาดแรงงานประเทศไทย

รวมไปถึงประชาชนทั่วไปเพื่อที่จะได้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องอสังหาริมทรัพย์และรูปแบบการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีส่วนช่วยพัฒนาให้วงการอสังหาริมทรัพย์และสังคมไทยก้าวไกลอย่างยั่งยืน” คุณอนุพงษ์กล่าวสรุป

แนะนำคอนโดคุณภาพเอพี ปี 2015 มีโครงการไหนน่าสนใจบ้าง?

สวัสดีค่า ผู้อ่าน Homenayoo ที่รักทุกคน หลังจากช่วงต้นปี 2015 มีข่าวออกมาให้วงการอสังหาเราฮือฮากันกับการเปิดตัวโครงการคอนโดของ AP ถึง 10 โครงการ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวคอนโดมากที่สุดเท่าที่ AP เคยเปิดมา โดยคอนโดทั้งหมดนี้จะเป็นทำเลที่ใกล้แนวรถไฟฟ้าทั้งสายปัจจุบันและสายอนาคต แบบใกล้สุดก้าวเดียวถึงรถไฟฟ้าเลยก็มี ไกลสุดก็ไม่เกิน 500 เมตร พูดง่ายๆว่าเป็นทำเลที่เดินถึงรถไฟฟ้าได้สบายๆนั่นเอง

การเลือกอยู่อาศัยในทำเลที่ดีนี่มีผลกับชีวิตเราชัดเจนค่ะ คอนโดคุณภาพ AP ที่ตอบโจทย์ของคนเมืองที่มองหาคอนโด ไม่ว่าจะเพื่อคุณภาพชีวิตหรือคุณภาพในการลงทุน ก็เป็นที่รู้กันว่าทำเลมีผลเต็มๆนะคะ ทำเลห่วยนี่เซงยาวค่ะ อยู่ก็ยาก ขายต่อก็ลำบากด้วย

ตั้งแต่ AP ร่วมทุนกับญี่ปุ่นมานี่จะสังเกตได้ว่าทำการบ้านด้านนี้มาดี นอกจากเรื่อง Space หรือพื้นที่ในห้องที่เน้นการใช้สอยเต็มที่และยืดหยุ่นปรับได้หลากหลายตามสไตล์ที่ญี่ปุ่นถนัดอยู่แล้ว AP ยังมีกลยุทธ์การวาง Location คอนโดที่ไม่ใช่แค่ติดรถไฟฟ้า ติดถนนใหญ่อย่างเดียว คอนโดคุณภาพ AP จะเป็นคอนโดที่อยู่ในจุดที่เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก รอบๆเป็นแหล่งชุมชน อุดมสมบูรณ์ เดินหาของกินได้ไม่แห้งแล้ง มีความปลอดภัยไม่เปลี่ยว อยู่ใกล้โรงพยาบาล, สถานศึกษา และแหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆด้วย

เพื่อให้เห็นภาพโครงการคุณภาพของ AP ที่มีคุณภาพทั้งในแง่การอยู่อาศัยและการขายต่อว่ามีองค์ประกอบอะไรบ้าง เราจะยกตัวอย่างคอนโด AP ทั้ง Rhythm, Life และ Aspire ทั้ง 3 แบรนด์ที่เปิดตัวในปี 2015 แบรนด์ละโครงการโดยเลือกโครงการเด่นที่ขายดีมาให้ดูกันว่าทำเลเป็นแบบไหน โครงการเป็นยังไง เราไปดูกันเลยค่ะ

AP Condominium: Rhythm รางน้ำ

คลิกเพื่ออ่านรายละเอียดโครงการ Rhythm รางน้ำ

Rhythm รางน้ำ เป็นโครงการ AP ปี 2015 ที่ขายดี แบบ 1 day sold out หรือขายหมดตั้งแต่วันแรกเลยค่ะ เป็นโครงการคอนโด 27 ชั้น 385 ยูนิต ที่มีราคาเฉลี่ยประมาณ 170,000 บาท/ ตร.ม. ซึ่งส่วนใหญ่โครงการโซนในเมืองโซนพญาไท อนุสาวรีย์ชัยเป็นทำเลที่มีความต้องการค่อนข้างสูง คือกระจายตัวมาจากสยาม จุฬา สามย่าน อีกที ทำให้ที่ดินโซนนี้มีราคาสูงและส่วนใหญ่โซนนี้จะเริ่มขนาดยูนิตที่ไซส์ใหญ่ 40 ตร.ม. ขึ้นไป ทำให้มีราคาสูง จับต้องยาก

ขณะที่ตัวโครงการ Rhythm รางน้ำ มีขนาดเริ่มต้นเป็นยูนิตแบบ 1 ห้องนอน 28-35 ตร.ม. ซึ่งมีถึง 76% ของยูนิตทั้งหมด โดยขนาดเริ่มต้น 28 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 4.7 ล้านบาท ก็เป็นราคาที่เมื่อเทียบกับความไพรม์ของทำเลแล้ว นับว่าเป็นราคาที่ยังมีคนต้องการและรอซื้ออยู่ดี จะเห็นได้จากการที่มีผู้รอลงลงทะเบียนถึง 3,300 คนเพื่อสั่งจองกันนะคะ

จุดเด่นของที่ตั้งโครงการนี้คือเป็นโครงการในซอยรางน้ำที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าห่างจากทางขึ้น BTS สถานีอนุสาวรีย์ชัยฯประมาณ 130 ม. ซึ่งเป็นระยะเดินสบายๆ ซึ่งเป็นที่ดินผืนที่เรียกว่าหายาก ที่ไม่ได้ติดรถไฟฟ้า และไม่ได้ติดถนนใหญ่ด้วย แต่ไปอยู่ในซอยแทน มันดีกว่ายังไงไปดูกันค่ะ

จากในซอยรางน้ำนี้จะเดินไปขึ้นบันได BTS ตรงๆจากทางเท้าด้านนอก หรอจะเดินตากแอร์ผ่านห้าง Century ไปขึ้น BTS ก็ได้ ในระยะประมาณ 100 เมตรเท่านั้น และห้างจากทางขึ้น BTS พญาไทประมาณ 600 ม.ซึ่งเชื่อมต่อกับ Airport Rail Link ไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิได้

ซอยรางน้ำเป็นซอยที่อุดมสมบูรณ์ หาของกินได้ทั้งกลางวันกลางคืน มีร้านอาหารอร่อยๆและรถเข็นขายของข้างทางเยอะ คนนอนดึกน่าจะถูกใจค่ะ กลางคืนก็ครึกครื้น กลางวันก็มีห้าง Century Mall อยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการเลย จะขึ้น BTS ไปเดินสยามก็ห่างแค่ 3 สถานีเท่านั้น

ในซอยรางน้ำยังมี Pub&Restaurant ที่น่านั่งอยู่หลายร้าน สวนสันติภาพที่เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ของโซนนี้ ก็อยู่ห่างโครงการแค่ 300 เมตร ซึ่งตรงนี้มันเป็นจุดที่กำลังพอดีมากๆ เพราะเดินไปออกกำลังกาย ปิกนิกได้สบายๆ และไม่อยู่ใกล้เกินไปจนเจอเสียงรบกวนอย่างพวกแอโรบิก กับเสียงเพลงเคารพธงชาติที่จะดังออกมาทุกวันด้วยค่ะ ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ก็มีอยู่ใกล้ๆ อำนวยความสะดวกได้ดี

นอกจากนี้ยังห่างจาก King Power แหล่งช้อปสินค้าปลอดภาษีและโรงละครเวทีอักษราแค่ประมาณ 100 เมตรเท่านั้น บวกกับการที่อยู่ไม่ไกลจากอาคารสอนพิเศษวรรณสรณ์ ที่ใกล้ BTS พญาไท แบบจากโครงการเดินไปถึงเลยแค่ประมาณ 550 เมตร ทำให้ในซอยรางน้ำมีโรงแรม เกสเฮ้าส์ หอพัก สำหรับทัวริสต์ น้องๆนักเรียนต่างจังหวัดตอนปิดเทอมที่มาเรียนพิเศษ คุณหมอ พยาบาล และนักศึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาลรอบๆ ก็เป็นส่วนนึงที่เสริมบรรยากาศและความอุดมสมบูรณ์ซึ่งก็เพิ่มความฮ็อตของซอยรางนำ้นี้ไปในตัวด้วย

UNIT TYPE

1 BR Plus ขนาด 35 ตร.ม.

ยูนิตแบบใหม่ขนาด 35 ตารางเมตร ซึ่งเป็นวิธีคิดในการการแบ่งพื้นที่แบบใหม่ สำหรับกลุ่มลูกค้า RHYTHM รางน้ำ โครงการนี้ และ LIFE อโศก (ซึ่งขายดีเหมือนกันและทำเลก็น่าสนใจ เราจะพูดถึงถัดจากนี้นะคะ) ด้วยการจัดสรรพื้นที่ภายในที่เพิ่มความเป็นส่วนตัวขึ้นโดยเชื่อมต่อจากห้องนอน จะใช้เป็นตู้เสื้อผ้าแบบ WALK – IN CLOSET หรือใช้เป็นห้องทำงานส่วนตัวก็ได้ค่ะ

ตัวห้องขายแบบ Fully Fitted คือมีชุดครัวมาให้ สุขภัณฑ์ Kohler มีฉากกั้นห้องน้ำแต่ฝักบัวเป็นแบบธรรมดาไม่มี Rain Shower นะคะ และฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร ซึ่งโดยภาพรวมถือว่าวัสดุค่อนข้างธรรมดาไปหน่อยถ้าเทียบกับราคาคอนโดระดับนี้นะคะ แต่จุดขายของโครงการนี้ที่ทำให้ซื้อง่ายขายคล่องคือทำเลมากกว่า ไม่ใช่เรื่องวัสดุค่ะ แต่ผู้ซื้ออย่างเราก็ต้องชั่งน้ำหนักดูด้วยนะคะ สำหรับบางคน การอยู่คอนโดที่ทำเลไม่ไพรม์เท่านี้ เช่นอยู่ในซอยลึกไกล BTS หน่อย แต่ได้ห้องใหญ่กว่า และได้วัสดุคุ้มกว่าในราคาเท่ากัน ก็อาจจะตอบโจทย์ความพอใจได้มากกว่า

GALLERY

ภาพจำลองตัวอาคาร Rhythm รางน้ำจะคล้ายๆตัว L แตหางสั้นหน่อยค่ะ รูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมเรียบๆเพิ่มลูกเล่นที่ Facade โทนสีภายนอกอาคารออกโทนเข้มเรียบๆ

ภาพจำลองสวนหย่อมที่ชั้น 1

สวนชั้น 6 วิวมองไปทางแนวรถไฟฟ้า ขึ้นมารับลมชมวิวแนวรถไฟฟ้าได้ที่ชั้นนี้นะคะ ราวกันตกเป็นกระจก

ภาพจำลองชั้น 27 เป็นชั้น Facility หลัก มีสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool พรอมสวนลอยฟ้า ฟิตเนส และ Steam แบรนด์ Rhythm หลังๆสระจะลงไปอยู่ชั้นล่างๆ แต่โครงการนี้เอากลับมาไว้ชั้นบนสุดอีกครั้งค่ะ ก็เป็นข้อดีของโครงการนี้นะคะ เห็นวิวไกลขึ้น มีความเป็นส่วนตัวขึ้น

ที่ปลายสระว่ายน้ำเป็นฟิตเนส 2 ชั้น ผนังห้องเป็นกระจกทั้งหมด ออกกำลังกายไปด้วยชมวิวไปด้วยค่ะ

ภาพจำลองภายในโถง Lobby ชั้น 1 ใช้หินอ่อนตรงส่วนชุดรับแขก มีช่องแสงด้านซ้ายมือซึ่งเปนส่วนของเปลือกอาคารด้านนอก ด้านในสุดมีป้าย Rhythm

AP Condominium :Life อโศก

คลิกเพื่ออ่านรายละเอียดโครงการ Life อโศก

Life อโศก เป็นโครงการคอนโด 35 ชั้น 1,642 ยูนิต ที่มีเริ่มต้นประมาณ 3,120,000 บาท ขนาดเริ่มต้นที่ 24 ตร.ม. ราคาเฉลี่ยประมาณ 130,000 บาท/ ตร.ม. มีที่ตั้งอยู่ห่างจากแอร์พอร์ตลิงค์มักกะสัน 20 ม.และ MRT เพชรบุรีประมาณ 130 ม. ตอนนี้ก็ขายออกไปกว่า 90%แล้วค่ะ

จริงๆด้วยความที่เป็นโซนใกล้ทั้ง New CBD พระราม 9 และ CBD อโศกสุขุมวิท และความสะดวกในแง่ใกล้ทั้ง MRT และแอร์พอร์ตลิงค์มากๆก็ขายได้อยู่แล้วนะคะ แต่ก็เป็นคอนโดที่มีทำเลทองส้มหล่นไปเลยเมื่อมาตั้งอยู่ตรงข้ามที่ดินมักกะสันแบบนี้ เนื่องจากแผนพัฒนาที่ดินของมักกะสันที่ออกมาในเวอร์ชั่น คสช.

ในอนาคตอันใกล้นี้ พื้นที่สีเขียวแปลงใหญ่บริเวณมักกะสัน 497 ไร่ ตรงข้ามโครงการ Life อโศกนี้ กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เรียกว่าโปรเจ็คยักษ์พลิกประเทศที่เคยพับเอาไว้จะกลับมาอีกครั้งกับ “มักกะสันคอมเพล็กซ์” ผสมโรงกับเวอร์ชั่นของ คสช. ซึ่งถ้าคนที่ตามข่าวจะพอทราบนะคะ ว่ากลุ่มนายทุนมาริน่าเบย์แซนด์ที่ทำคาสิโนยักษ์ที่สิงคโปร์ก็อยากได้ที่ดินตรงนี้เช่นกัน อ่านรายละเอียดเพิ่ม คลิก , ขอบคุณภาพประกอบจาก Realist ค่ะ

โดยแผนแนวทางการใช้ประโยชน์จากที่ดินล่าสุดจากคสช.เคาะออกมาแล้ว ว่าจะแบ่งที่ดินมักกะสันเป็น พิพิธภัณฑ์ 30 ไร่ สวนสาธารณะ 150 ไร่ พื้นที่ในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ 140 ไร่ ส่วนที่เหลืออีก 177 ไร่ จะมีการพัฒนาเชิงพาณิชย์ในอนาคตนะคะ ก็คือยังไงฝั่งตรงข้ามนี่มีสวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ และอาคารเชิงพาณิชย์มากมายแน่นอน ก็ถือว่าเป็นทำเลที่เหมาะจะเก็งกำไรในการขายและอยู่อาศัยเองที่ดีทำเลนึงเลยค่ะ

นอกจากนี้อีกประมาณ 2-3 ปีต่อจากนี้ จะมีโครงการ สิงห์ คอมเพล็กซ์ (Singha Complex) ซึ่งเป็น Community Mall + Office Mix Use ขนาดยักษ์ของ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งก็เป็นบริษัทในเครือของบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ผู้ผลิตเบียร์สิงห์นั่นเองค่ะ ก็ในอนาคตอันใกล้โครงการ Life อโศก นี่นอกจากจะมีสวนสาธารณะมักกะสันแล้วก็จะมีคอมมิวนิตี้มอลและอาคารสำนักงานใหญ่อยู่ใกล้ๆอีกด้วย

ที่ตั้งของโครงการ Life Asoke ตั้งอยู่บนถนนอโศก-ดินแดง ตัดกับถนนกำแพงเพชร 7 ติดกับโรงพยาบาลผิวหนัง อโศก

UNIT TYPE

1 BR Plus ขนาด 35 ตร.ม.

อย่างที่อธิบายไปในส่วนของ Rhythm รางน้ำนะคะ ว่าใช้แปลนยูนิตแบบ 1 ห้องนอนแบบเดียวกันกับ LIFE อโศก ค่ะ ก็คือแบ่งโซน Public และ Private อย่างเป็นสัดส่วนมากขึ้น โดยเชื่อมต่อห้องเล็กจากห้องนอนไปใช้เป็นตู้เสื้อผ้าแบบ WALK – IN CLOSET หรือใช้เป็นห้องทำงานส่วนตัวก็ได้ค่ะ

GALLERY

ภาพจำลองทัศนียภาพของโครงการ Life อโศกในตอนกลางคืน จะเห็นถนนอโศก – ดินแดงหน้าทางเข้าโครงการ และ แอร์พอร์ตเรลลิงค์มักกะสันอยู่ข้างๆ

ภาพจำลองทางเดินจากหน้าโครงการไปยังตัวตึกจะมีหลังคาคลุมมาให้พร้อมสวนหย่อมด้านข้าง

ภาพจำลอง Drop Off ด้านหน้าโครงการ ตัวอาคารชั้นล่างจะเน้นความโปร่งสบายโดยเน้นการใช้ช่องเปิดที่ชั้นล่างตลอดแนว

ส่วน Lobby ของโครงการจะมีฟังก์ชันห้องเอาไว้นั่งคุยกันแยกไว้ 4 ห้องถือว่าออกแบบมาดีค่ะ ลูกบ้านสามารถมานั่งคุยกับแขกที่นี่ได้โดยมีความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย

ภาพจำลองตัวสระว่ายน้ำที่ชั้น 7 เป็นแบบ Infinity Edge Pool บางส่วนมีระแนงกันแดดมาให้

ห้อง Fitness เป็นจะเห็นวิวสระน้ำและวิวฝั่งที่ดินมักกะสันค่ะ

สวนหย่อมอีกด้านของอาคาร โครงการนี้เป็นคอนโดที่มีพื้นที่ส่วนกลางรวมแล้วกว่า 5 ไร่เลยค่ะ เนื่องจากเป็นโครงการใหญ่ ยูนิตเยอะ พื้นที่ส่วนกลางเลยได้ใหญ่ไปด้วย

Aspire ลาดพร้าว 113

คลิกเพื่ออ่านรายละเอียดโครงการ Aspire ลาดพร้าว 113

Aspire ลาดพร้าว 113 เป็นคอนโดสูง 8 ชั้น 270 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 1.65 ล้านบาท 24.5 ตร.ม.ราคาเฉลี่ย 70,000 บาท/ ตร.ม. ที่อยู่ติดถนนใหญ่ลาดพร้าวเลยค่ะ สำหรับราคาคอนโดติดถนนใหญ่โซนลาดพร้าว ที่เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้นแบบนี้ ก็ถือว่าหายากพอสมควร

คอนโด Aspire เป็น Sub Brand ของคอนโด AP ที่ราคาเริ่มต้นต่ำที่สุดนะคะ ถ้าไล่ลำดับราคาสูงไปต่ำตาม Brand จะเป็น Rhythm >> Life >> Aspire ค่ะ โครงการ Aspire ลาดพร้าว 113 นี้นี้เป็นอีกโครงการที่อยู่ในทำเลที่ดี และขายออกไปกว่า 85% แล้วเช่นกัน ความพิเศษคือเป็นโครงการ Low Rise 8 ชั้น ที่อยู่ติดถนนใหญ่ลาดพร้าวเลย นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้แมคโคร ตะวันนา เดอะมอลล์บางกะปิ และห่างจากรถไฟฟ้าสีเหลืองอ่อนเพียง 100 เมตร และใกล้โรงพยาบาลเวชธานีตามคอนเซ็ปโลเคชั่นของ AP

ที่ตั้งโครงการอยู่ติดถนนใหญ่เลยหัวมุมทางเข้าซอยลาดพร้าว 113 เลย ลักษณะโครงการ เป็นคอนโด Low-Rise 8 ชั้น ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลืองอ่อน สถานีบางกะปิ เพียง 100 เมตร เชื่อมต่อถนนสายสำคัญได้หลายเส้นทางสามารถไปเปลี่ยนสายรถไฟฟ้าสายสีส้มที่แยกลำสาลีได้ในอนาคต สภาพแวดล้อมโดยรอบ ใกล้ชุมชน และ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อย่าง เดอะมอลล์ บางกะปิ, ตะวันนา, แม็คโคร, โลตัส, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และ โรงพยาบาลชั้นนำอย่าง กับ โรงพยาบาลเวชธานี

แผนรถไฟฟ้าสายสีเหลืองรัชดาลาดพร้าว – พัฒนาการค่ะ

UNIT TYPE

แปลนห้อง Studio : 24.50 ตร.ม. เป็นขนาดห้องเริ่มต้นของ Aspire นะคะ ครงการขายห้องให้แบบ Fully-Fitted โดยจะได้เคาน์เตอร์ครัว + ซิงค์ล้างจาน ผนังห้องฉาบเรียบทาสี ฝ้าฉาบเรียบทาสี ไฟภายในห้องแบบโคมซาลาเปา เครื่องปรับอากาศ 1 เครื่อง และ สุขภัณฑ์ของ American Standard

แปลนห้อง 1 Bedroom ขนาด 28.50 ตร.ม.

GALLERY

ภาพจำลองทางเข้าโครงการค่ะ อยู่ติดถนนใหญ่ลาดพร้าว

ภาพจำลองส่วนสระว่ายน้ำเป็นระบบเกลืออยู่ชั้นล่าง โซนทางเข้าด้านหน้าโครงการเลย แต่ก็มีรั้วกั้นให้ความเป็นส่วนตัวอยู่

ภาพจำลองห้องฟิตเนส

ทั้งหมดก็เป็น 3 ตัวอย่างโครงการคอนโดคุณภาพ AP ที่เปิดตัวออกมาภายในปี 2015 นี้นะคะ โดย 10 โครงการที่เปิดตัวปี 2015 มีทั้งหมดดังนี้ค่ะ

1) LIFE อโศก 20 เมตร จากแอร์พอร์ตลิงค์มักกะสันและ 130 เมตรจาก MRT เพชรบุรี

2) Aspire เอราวัณ เพียง 1 ก้าวจากสถานีเอราวัณ

3) Aspire สาทร-ราชพฤกษ์ 1 ก้าวจากสถานีบางหว้า

4) Aspire ลาดพร้าว 113 เพียง 100 เมตรจากรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีบางกะปิ

5) RHYTHM รางน้ำ 100 เมตรจากสถานีอนุสาวรีย์

6) Aspire วุฒากาศ 200 เมตรจากสถานีวุฒากาศ

7) Life ปิ่นเกล้า เพียง 40 เมตรจากสถานีบางยี่ขัน

8 ) Aspire สาทร–ตากสิน คอปเปอร์โซน 300 เมตรจากสถานีวุฒากาศ

9) LIFE สุขุมวิท 48 ห่างจากสถานีพระโขนง 500 เมตร

+ 1 Condo

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 1623

WEBSITE : http://www.apthai.com/คอนโด/

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

EP.215 รีวิว บ้านเดี่ยว เดอะ ซิตี้ รามอินทรา THE CITY RAMINDRA

สวัสดีค่า ผู้อ่าน Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ The City รามอินทรา บ้านเดี่ยว 2 ชั้นสไตล์ Tropical Modern ที่ถูกพัฒนาแบบมาจนเหมาะสมกับการอยู่อาศัยและการใช้สอยในทุกตารางนิ้วของบ้าน การเชื่อมโยงธรรมชาติจากภายนอกสู่ภายใน และ การออกแบบพื้นที่ที่ยืดหยุ่นเพื่อการใช้งานแบบ Multi-Functional

ทำเลโครงการนี้อยู่โซนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก ย่านคู้บอนใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ด่านจตุโชติ เป็นทำเลที่เชื่อมต่อออกไปได้หลายเส้นทางค่ะ ถ้าไม่ขึ้นทางด่วน จะวิ่งตรงๆไปรามอินทรา ออกไปพหลโยธิน ไปลาดพร้าว หลักสี่ได้ หรือจากโครงการวิ่งเส้นวงแหวน ออกไปสายไหม ไปรังสิต ลำลูกกาก็ได้เช่นกัน

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการประกอบด้วย The City Club ภายในมีสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส พื้นที่สวนพักผ่อน และการรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง และระบบกันขโมยติดให้ที่บ้านทุกหลัง ส่วนตัวโครงการจะเป็นอย่างไร เราไปดูรายละเอียดกันเลยค่า

ที่ตั้งโครงการ

ถนนรามอินทรา ซอยกาญจนาภิเษก 5/7 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร

คลิก เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

ที่ตั้งโครงการอยู่บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก ย่านคู้บอน ห่างจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ด่านจตุโชติ ประมาณ 4.5 ก.ม. ถ้าไม่ขึ้นทางด่วน โครงการอยู่ห่างจากถนนรามอินทราประมาณ 3.3 ก.ม. จากรามอินทรา วิ่งออกไปพหลโยธิน ไปลาดพร้าว หลักสี่ หรือไปมีนบุรีได้ หรือจจากโครงการวิ่งเส้นวงแหวน ออกไปสายไหม ไปรังสิต ลำลูกกาก็ได้เช่นกันค่ะ

การเดินทาง

ตามลูกศรแดงในแผนที่ด้านบนนะคะ การเดินทางวันนี้เริ่มจาก ถนนรามอินทรา วิ่งตรงไป แยกนวมินทร์ ตรงผ่านแยกไปหน่อยแล้วเลี้ยวขวาไป ถนนคู้บอน ตรงไปประมาณ 2 กม.ให้เลี้ยวขวาลอดใต้ทางยกระดับเข้า ถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก ตรงไปอีกประมาณ 1 กม. ก็จะเจอซุ้มโครงการ The City รามอินทรา อยู่ทางฝั่งขวามือแล้วค่ะ เราไปดูภาพการเดินทางจริงกันต่อเลยค่า

การเดินทางวันนี้เราเริ่มจากบนถนนรามอินทรา ขวามือเป็นสะพานข้ามแยก แต่เราไม่ขึ้นสะพานนะคะ เราชิดซ้ายตรงไปแยกนวมินทร์ จุดสังเกตคือซ้ายมือเราจะเห็นคอนโดลุมพินี รามอินทรา – นวมินทร์อยู่

ตรงไปจะเห็นป้ายไปถนนคู้บอนอยู่ทางขวามือค่ะ ข้างหน้าก็ก็จะเป็นแยกนวมินทร์ละ

ถึงแยกนวมินทร์ละค่ะ ตรงนี้ถ้าเลี้ยวซ้ายไปตามถนนนวมินทร์จะไปออกบางกะปิได้นะคะ แต่เราตรงผ่านแยกไปเลยนะคะ จากแยกนี้จะอยู่ห่างจากโครงการ The city รามอินทราประมาณ 3.3 กม.

ผ่านแยกนวมินทร์มาหน่อยก็เตรียมเลี้ยวขวาลอดใต้สะพานข้ามแยกไปถนนคู้บอน

ถนนคู้บอนเป็นถนน 4 เลน เนื่องจากแถวนี้มีหมู่บ้านจัดสรรเยอะ สองฝั่งถนนนี้ก็จะอุดมสมบูรณ์เลยค่ะ มีร้านอาหาร ร้านทอง ร้านสะดวกซื้อ ให้เห็นอยู่หลายร้าน เป็นโซนชุมชนที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการมาก และมาหาของกินตรงนี้ได้ง่ายนะคะ

ตรงไปหน่อย พอเห็นสถานีตำรวจนครบาลคันนายาว กับ วัดคู้บอนอยู่ทางซ้ายมือ เราก็ตรงไปตามทางเลยค่ะ เลนถนนบังคับอยู่ละ

ตรงไปจนเห็นทางยกระดับวงแหวนกาญจนาภิเษกแล้ว เราตรงไปตามทาง

แล้วเลี้ยวขวาลอดใต้ทางยกระดับไป

ออกมาเราเลี้ยวซ้ายตามทางไปถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก

ตรงไปตรงๆเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกไปประมาณ 1 กม.

ก็จะเจอทางเข้าโครงการ The City รามอินทรา ที่ ซอยกาญจนาภิเษก 5/7 อยู่ทางขวามือแล้วค่ะ

จุดสังเกตคือจะมีป้ายโครงการ The City รามอินทรา ติดอยู่ทั้งบิลบอร์ดด้านบน และป้ายติดถนนด้านล่างนะคะ เราก็เลี้ยวเข้าไปได้เลย

ถนนในซอยเป็นถนนสาธารณะประโยชน์สี่เลน ค่อนข้างกว้างมีที่พอให้จอดรถสองข้างทางได้และมีทางเดินเท้าให้ทั้งสองฝั่งถนนนะคะ มีร้านอาหารตามสั่งและร้านขายน้ำอยู่ในซอย ข้างทางปลูกต้นไม้ร่มรื่น

เข้าซอยมาแค่ประมาณ 80 เมตรก็จะเจอซุ้มโครงการ The City รามอินทรา อยู่ทางขวามือแล้วค่ะ ก่อนพาเข้าไปชมในโครงการเราขอพาไปชมรอบๆโครงการกันก่อนนะคะ

จากซุ้มโครงการมองไปฝั่งตรงข้ามจะมีร้านอาหารตามสั่งอยู่ ก็ถือเป็นร้านอาหารที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดนะคะ ในร้านมีเมนูก๋วยเตี๋ยวไก่มะระอยู่ด้วย พร้อมตู้แช่มีเครื่องดื่มขาย

เลยจากหน้าประตูเข้า The City นิดเดียว สุดซอยจะเป็นวงเวียนวนรถ

ด้านในวงเวียนวนรถนี้ ซ้ายมือจะเป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้นชื่อ The Connect และขวามือจะเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้นชื่อ The Plant

หน้าทางเข้าโครงการ The Connect ฝั่งซ้ายมือของวงเวียนจะมีร้านกาแฟอยู่ด้วยค่ะ

ภาพมุมสูงโครงการ

ที่ดินของโครงการ The City รามอินทรา เป็นที่ดินรูปสี่เหลี่ยมคางหมู มีพื้นที่สีเขียว 2 จุดใหญ่ คือสวนด้านหน้าใกล้ซุ้มทางเข้าออก และจัดพื้นที่ส่วนกลางอย่างสวนสาธารณะ สโมสร สำนักงานขายเอาไว้โซนตรงกลางที่ดินโครงการ โดยระยะจากด้านหน้าซุ้มโครงการมาจนถึงบึงชุมเห็ดด้านท้ายโครงการลึกประมาณ 350 เมตร คนที่อยู่บ้านซอยหลังๆก็สามารถเดินมาใช้งานพื้นที่ส่วนกลางหรือซุ้มโครงการได้ในระยะเดินสบายๆค่ะ

รอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นโครงการอาคารที่พักอาศัยทั้งทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวสูงประมาณ 2 ชั้น ส่วนด้านหน้าโครงการทางทิศเหนือติดถนนสาธารณะประโยชน์ รอบๆถนนมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ช่วยอำนวยความสะดวกได้อยู่ร้านสองร้าน ฝั่งทิศใต้โครงการติดบึงชุมเห็ด ถัดไปเป็นที่ดินเปล่าของบุคคลอื่น ทิศตะวันออกติดโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น The Plant และทิศตะวันตกติดกับที่ดินบุคคลอื่น ถัดไปเป็นถนนเลียบกาญจนาภิเษก

สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการ

สถานที่สำคัญ

• แฟชั่นไอส์แลนด์ 5 กม.
• เดอะ พรอมานาด 5.5 กม.
• Lotus รามอินทรา 6.5 กม.
• ตลาดออเงิน 11 กม.
• ตลาดวงศกร 10.5 กม.
• Central รามอินทรา 14 กม.
• มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น 10 กม.
• โรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์สายไหม 10.5 กม.
• โรงพยาบาลนพรัตน์ 6.8 กม.
• โรงพยาบาลสินแพทย์ 4.9 กม.
• สนามกอล์ฟปัญญาอินทรา 5.6 กม.
• Legacy Golf Club 5.3 กม.

บริเวณโครงการ

ซุ้มทางเข้าโครงการ The City รามอินทรา

ซุ้มโครงการ The City รามอินทรา ออกแบบมาในโทนสี ขาว เทา มีการใช้เส้นแนวตั้งสีเทาเป็นส่วนตกแต่งช่วยเพิ่มมิติและลดความรู้สึกทึบตันได้ดี ซุ้มมีขนาดค่อนข้างใหญ่ หลังคาซุ้มสูงและกว้าง ช่วยกันแดดกันฝนให้กับตัวป้อมรปภและผู้ผ่านเข้าออก

ที่ซุ้มจะมี รปภ คอยดูแลคนนอกให้แลกบัตรเข้าออก และการเข้าออกสามชั้น คือ Access Card ระยะใกล้, ประตูเลื่อนไฟฟ้า และ รั้วกั้นไม้กระดก พร้อมกล้อง CCTV รอบโครงการ พื้นส่วนซุ้มโครงการจะเป็นพื้นสแตมป์คอนกรีตค่ะ

ภาพซ้าย:การเข้าออกโครงการเป็นระบบ Key card Access แบบระยะใกล้

ภาพขวา:ที่ซุ้มทางเข้าออกจะมีกล้อง CCTV 2 ตัวสำหรับส่องป้ายทะเบียนและหน้าตาของผู้มาติดต่อ

พอเข้ามาจะเจอวงเวียนไว้วนรถแบบนี้

ถนนหลักโครงการเป็นถนนคอนกรีตกว้าง 16 เมตร สองข้างทางปลูกต้นไม้ร่มรื่น ทางเดินเท้าปูหญ้าและปูแผ่นหินมาให้

ถัดจากสนามหญ้าด้านหน้ามาหน่อย ซอยแรกซ้ายมือจะเป็นที่ตั้งของบ้านตัวอย่างค่ะ มี 3 แบบ

ถนนย่อยในซอยเป็นถนนคอนกรีตกว้าง 9 เมตร ข้อดีคือถ้ามีใครจอดรถหน้าบ้าน มีทางเดินเท้าปูหญ้าปูแผ่นหิน พร้อมปลูกต้นไม้ด้านนอกรั้วให้เรียบร้อย ซึ่งนอกจากจะทำให้ดูร่มรื่นขึ้นแล้วยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับภายในบ้านด้วย

จากถนนหลัก เดินตรงเข้ามาอีกหน่อยก็จะเห็นโซนตรงกลางของที่ดินโครงการ

โซนตรงกลางของที่ดินโครงการเป็นที่ตั้งของสวนสาธารณะและสโมสรค่ะ ในสวนสาธารณะปลูกต้นไม้ไว้ให้ทั้งไม้พุ่มและไม้ยืนต้น พื้นปูหญ้าทั้งหมดถูกดูแลให้ดูเขียวสดชื่นดีค่ะ

อันนี้เราขึ้นไปถ่ายสวนสาธารณะมุมสูงจากบนสโมสรมาให้เห็นภาพรวมกันนะคะ ในสวนสาธารณะจะมีทำทางเดินเท้าปูทรายล้าง และมีม้านั่งไว้ให้เป็นจุดๆ มองจากมุมนี้จะเห็นพื้นที่สนามหญ้าที่ค่อนข้างโล่งและกว้างทีเดียว

สโมสรของโครงการนี้จะเรียกว่า The City Club ค่ะ

แต่งเป็นสไตล์ Loft ด้วยเหล็กกล่องสีดำ ให้ความรู้สึกโปร่งและนำสายตาได้ดีค่ะ

ข้างสระจะมีชุดโซฟาหวายเทียมที่เปียกน้ำได้เอาไว้ให้นั่งพัก วางของ หรือนั่งเฝ้าเด็กๆเล่นน้ำกันได้

ด้านหน้าสโมสรเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 6 x 15 ม. พื้นข้างสระปูแผ่นไม้สำเร็จสีน้ำตาลเทา รอบสระปูกระเบื้องโทนสีดำเข้ากันกับตัวอาคาร สระว่ายน้ำฝั่งติดกับบันไดทางเข้าสโมสร จะมีน้ำพุและน้ำล้นอยู่ ทำให้เกิดเสียงและเอฟเฟคของน้ำที่กระเพื่อมอยู่ตลอด ก็สร้างบรรยากาศให้น่าเล่นน้ำขึ้นไปอีกนะคะ

สระอีกฝั่งมีขั้นบันไดลงสระ และที่นั่งข้างสระมาให้

ที่นั่งข้างสระให้มาอีกจุด เหมือนเป็นศาลากันแดดกันฝนได้ในระดับนึง

ข้างๆที่นั่งข้างสระจะมีจุดล้างตัวก่อนลงสระ 1 จุดค่ะ

ด้านในสโมสรชั้นล่าง ฝั่งซ้ายมือของภาพจะเป็นส่วนห้องและ Steam แยกหญิงชาย ฝั่งขวามือจะเป็นห้องฟิตเนสค่ะ

ที่ห้องฟิตเนสตกแต่งด้วยโทนสีเทา น้ำตาลเบจ พื้นปูพรมสีเบจ มีเครื่องออกกำลังกายอยู่ 7 เครื่อง มี

– เครื่องซิทอัพ 1 เครื่อง

– เครื่องเพาะกาย 1 เครื่อง

– ปั่นจักรยาน 2 เครื่อง

– เครื่องเดิน 1 เครื่อง

– และลู่วิ่งไฟฟ้าอีก 2 เครื่อง

วางเครื่องหันหน้าออกไปทางผนังกระจกแบบหน้ากว้าง ออกกำลังกายไป ชมวิวสระน้ำและวิวสวนไป

ใครอยากเพาะกล้ามก็มีราวเวทยกน้ำหนักพร้อมเครื่องชั่งน้ำหนักมาให้ด้วย

ไปดูห้องน้ำกันต่อค่ะ ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิกผิวด้านสีครีมเรียบๆ ในห้องน้ำจะมีห้องอาบน้ำ 2 ห้อง และห้องโถสุขภัณฑ์ 3 ห้อง

เปิดให้ดูหน้าตาห้องอาบน้ำและห้องโถสุขภัณฑ์ค่า พื้นห้องอาบน้ำน้ำจะมีการลดระดับพื้นลงไปประมาณ 5 cm. เพื่อไม่ให้พื้นส่วนอื่นๆเปียก

ในห้องน้ำมีล็อกเกอร์มาให้เยอะดี

อ่างล้างหน้ามี 2 อ่างค่ะ เคาเตอร์อ่างเป็นหินแกรนิตสีดำยาวต่อเนื่องกัน ใกล้ๆจะมีห้อง Steam อยู่

ขึ้นไปดูชั้นบนกันต่อค่ะ

ชั้นบนจะเป็นของห้องนิติบุคคลนะคะ

หน้าห้องนิติบุคคลจะมีโซฟาหวายเทียมมาให้อีก 1 ชุดค่ะ

สำนักงานขายของโครงการจะอยู่ตรงข้ามสวนสาธารณะและสโมสรนะคะ ด้านหน้าเขียนไว้ว่า Sales Gallery

ภายในสำนักงานขายค่ะ ตกแต่งสไตล์ Tropical Modern เข้ากันกับสไตล์บ้านภายนอก จะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายคอยให้บริการข้อมูล น้ำดื่ม กาแฟ และพาชมโครงการ

HOUSE TYPE

แบบบ้านที่นี่จะมี 3 แบบด้วยกันคือ Pine, Cedar และ Teak เดี๋ยวเราจะพาไปดูบ้านตัวอย่างขนาดใหญ่สุดกันก่อนคือ Pine พื้นที่ใช้สอย287 ตรม. นะคะ ไปดูกันเลยค่ะ

แบบบ้าน: Pine

บ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Tropical Modern ดีไซน์ใหม่ทุกรายละเอียด เน้นดีเทลพื้นที่ใช้สอยที่มีความยืดหยุ่น ปรับใช้ได้หลากหลาย
พื้นที่ใช้สอย 287 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ
1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องรับประทานอาหาร
1 ส่วนเตรียมอาหาร 1 ครัวไทย 1 ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 3 คัน

แปลนบ้าน Pine

ชั้น 1 ของ Pine จะมีทางเข้า 2 ทาง ทั้งทางเข้าจากลานจอดรถ และ ทางเข้าจากเฉลียงหน้าบ้าน เข้ามาจะเจอส่วน ห้องรับแขก, ห้องรับประทานอาหาร, Pantry, ครัวไทย, ลานหลังบ้าน, ห้องแม่บ้าน, ห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัว และห้องน้ำชั้นล่างที่โถงบันได

ชั้น 2 ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำ 3 ห้อง และห้องอเนกประสงค์อีกห้องที่โถงบันได ห้องนอนใหญ่ กับ ห้องนอนที่ 2 ส่วนหน้าบ้าน มีห้องน้ำและระเบียงในตัว ห้องนอนใหญ่จะมี Walkin closet ด้วย

เริ่มกันจากทางเข้าบ้านกันก่อน เป็นแบบหน้ากว้าง รถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถได้ 3 คัน

ประตูรั้วเป็นเหล็กโปร่งทาสีดำแบบนี้ เปิดปิดแบบรางเลื่อน

ภาพซ้าย: ที่กำแพงหน้าบ้านอีกฝั่ง จะมีกล่องจดหมายที่ด้านหน้าติดเลขที่บ้านไว้ และจุดเก็บขยะค่ะ

ภาพขวา: จุดทิ้งขยะมีฝาปิดภายในบ้าน ทำให้เราไม่ต้องเปิดประตูรั้วออกไปทิ้งนอกบ้าน แต่สามารถเปิดทิ้งในบ้านได้เลย แล้วคนเก็บขยะจะมาเก็บไปจากด้านนอกเองค่ะ พอทิ้งขยะเสร็จก็เปิดกล่องจดหมายเอาจดหมายจากด้านในบ้านได้เลยเช่นกัน

ลานจอดรถเป็นลานคอนกรีตสแตมป์นะคะ แยกโครงสร้างจากตัวบ้านมาให้แล้ว จอดรถได้สามคัน แต่จะมีแค่สองคันอยู่ในร่มนะคะ เพดานลานจอดรถติดไฟดาวน์ไลท์มาให้ แต่อาจจะบังแดดให้ไม่เต็มทั้งคันนะคะ ตรงนี้สำหรับบางคนอาจต้องต่อกันสาดเพิ่มเองนะคะ

ที่ลานจอดรถมีตู้เก็บของอยู่ ใช้เก็บอุปกรณ์ทำสวน ดูแลรถยนต์หรืออุปกรณ์กีฬาได้

ประตูทางเข้าบ้านจากลานจอดรถ จะมีชานพักยกสูงขึ้นมา 1 step ปูกระเบื้องเซรามิก ช่วยกันฝุ่นกันความชื้นจากนอกบ้านไปในตัว

มุมระหว่างทางเชื่อมจากที่จอดรถไปทางเข้าด้านห้องรับแขกค่ะ มีชานเล็กๆ เอาไว้นั่งเล่นชมสวนได้ด้วย มุมนี้คนชอบจัดสวนหรือแต่งบ้านคงชอบนะคะ สามารถวางลูกเล่นได้หลายอย่างเลย บางคนที่ชอบเรื่องฮวงจุ้ยอาจทำเป็นบ่อน้ำพุ หินกลิ้ง เลี้ยงปลาทอง มุมนี้ก็ดูเหมาะดี

มองขึ้นไปด้านบน สังเกตว่าชายคาของบ้านที่นี่มีความแตกต่างจากชายคาปกตินะคะ ตรงฝ้าเพดานชายคาใช้ระบายอากาศได้ และเป็นแบบกันสัตว์และแมลง

มาถึงเฉลียงทางเข้าบ้านกันแล้วนะคะ พื้นเฉลียงยกขึ้นจากพื้นในสวน 2 สเต็ป เฉลียงมีความกว้างและความลึกพอวางม้านั่งเอาไว้นั่งเล่นหรือนั่งใส่รองเท้าได้นะคะ เพดานเฉลียงติดไฟดาวน์ไลท์มาให้ และมีไฟนอกบ้านติดที่เสาสองฝั่งมาให้ด้วย

บ้านสมัยนี้ส่วนใหญ่มักใช้ประตูทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อนกระจกนะคะ เพื่อช่วยนำแสงเข้าสู่ภายในตัวบ้าน แต่ส่วนตัวเราชอบประตูไม้สักบานใหญ่เปิดได้กว้างๆของบ้านแบบนี้มากเลยค่ะ ประตูไม้สักแบบนี้ให้อารมณ์แบบโรงแรมหรือรีสอร์ทส่วนตัวดี ซึ่งจริงๆมันก็เป็นประตูที่สามารถใช้ได้ในบ้านขนาดใหญ่ หรือบ้านเดี่ยวที่มีช่องแสงด้านข้างมากพออยู่แล้วแบบบ้านหลังนี้นะคะ เพราะมันทำให้ส่วนห้องนั่งเล่นด้านหน้ามีความเป็นส่วนตัวมากกว่าด้วย ข้างๆประตูมีช่องแสงสองด้าน เพิ่มความโปร่งให้บ้านได้อีกเล็กน้อย

ชุดมือจับเป็นสแตนเลสหน้าตาแบบนี้ค่ะ ด้านนอกจะมีรูให้ไขกุญแจ ด้านในจะมีตัวบิดล็อก

เปิดเข้ามาด้านในค่ะ บ้านตัวอย่างจัดอินทีเรียไว้ในสไตล์รีสอร์ทแบบโมเดิรช์นทรอปิคอลตามสไตล์บ้านมาให้ดูเป็นไอเดียดูเหมาะกันดี เรามีภาพบ้านเปล่ามาให้ดูเทียบด้วยนะคะ จะได้เห็นช่องแสง และพื้นกับผนังที่ได้ชัดๆ จากภาพจะเห็นระยะดูทีวีจากโซฟาถึงชั้นวางทีวีประมาณ 2.5 ม. คือกำลังดีค่ะ

นี่ภาพบ้านเปล่าค่ะ เพดานบ้านสูง 2.8 เมตร น่าจะถูกใจคนที่ชอบทำ Built in ไฟซ่อน แต่งฝ้ากันนะคะ ทำได้เต็มที่เลยเพราะเพดานค่อนข้างสูง ติดไฟดาวน์ไลท์ พื้นเป็นแกรนิตโต้ 60 x 60 cm. สีขาวครีม ผนังติดวอลเปเปอร์พร้อมบัวเชิงผนังสีขาวมาให้

ประตูหน้าต่างลูกฟักเป็นกระจกเขียวตัดแสงหนา 5 มม. กรอบเป็นอลูมิเนียมสีดำทั้งหลัง ในบ้านติดหน้าหน้าต่างและประตูกระจกมาให้ค่อนข้างเยอะ ทำให้บ้านสว่างและโปร่งดี

กลับมาดูบ้านตัวอย่างกันต่อนะคะ ในห้องนั่งเล่นด้านหน้าบ้านจัดชุดโซฟารับแขกสามที่นั่งพร้อมอาร์มแชร์อีกตัว และโต๊ะกาแฟมาให้ดูระยะใช้งานค่ะ ขนาดกำลังเหมาะดีค่ะ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป

ส่วนชั้นวางทีวีบ้านตัวอย่าง Buitin มาให้ดูเป็นไอเดีย

ภาพจากบ้านเปล่าจะเป็นแบบนี้

ถัดมาเป็นส่วนห้องทานอาหารค่ะ จัดมาเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้แบบ 8 ที่นั่ง ขนาดกำลังดีกับพื้นที่

สองฝั่งของส่วนห้องทานอาหารจะมีประตูเปิดออกไปเฉลียงย่อยรอบๆบ้านอยู่

ส่วนนี้เปิดออกมาเฉลียงข้างบ้าน พื้นเฉลียงปูกระเบื้องเซรามิกลายไม้แบบนี้ เหมาะจะเอาหมอนอิงมานอนเล่นอ่านหนังสือ นอนเล่นกับสัตว์เลี้ยงไปชมสวนไปในวันอากาศดีๆ บางคนอาจเอาชุดโต๊ะเก้าอี้ 2 ที่นั่งมาตั้งไว้ดื่มเบียร์หรือสูบบุหรี่นอกบ้านก็นับว่าเหมาะ ไฟติดเพดานเฉลียงส่วนนี้เป็นโคมซาลาเปานะคะ

ส่วนนี้เปิดออกมาเฉลียงที่อยู่ระหว่างลานจอดรถกับเฉลียงหน้าบ้านค่ะ มุมนี้ก็เป็นจุดนั่งเล่นชมสวนที่เหมาะเช่นกัน พื้นเฉลียงเป็นกระเบื้องเซรามิก ไฟเป็นดาวน์ไลท์

จากห้องทานอาหาร มองไปที่ส่วน pantry กับ ครัว บ้านเปล่าจะเป็นแบบนี้นะคะ

ได้ชุดครัว pantry หน้าตาแบบนี้ค่ะ มีที่เหมาะสำหรับวางเตาไมโครเวฟและตู้เย็น และเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ก่อนไปทำงานตอนเช้า pantry ส่วนนี้น่าจะใช้ประโยชน์ได้ดี มีซิงค์ล้างจานมาให้พร้อม Back Splash กันผนังเปื้อนด้วย

บ้านตัวอย่างเคาเตอร์ pantry เป็นลายไม้ พร้อมเก้าอี้ สไตล์รีสอร์ท

ในบ้านตัวอย่างมีกั้นฉากผนังตรงทางเข้าไปครัว

เป็นตำแหน่งที่เหมาะจะวางหิ้งพระหรือตีจูเอี๊ยะนะคะ

เพราะจะหันหน้าออกไปประตูออกไปลานจอดรถพอดี ส่วนนี้จะมีห้องนอนชั้นล่างอยู่ด้วย

เหมาะจะใช้เป็นห้องนอนแขก หรือห้องนอนผู้สูงอายุนะคะ เพราะอยู่ชั้นล่างไม่ต้องขึ้นบันได และมีห้องน้ำในตัวด้วย ขนาดห้องวางเตียงคู่ 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าได้ มีระยะเดินรอบเตียงสบายๆ

มองไปที่ประตูห้องน้ำ และประตูห้องนอน

ห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่างจะมีส่วนอาบน้ำพร้อมลดระดับพื้นมาให้ สุขภัณฑ์เป็นของ American Standard มีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 1 บาน ผนังปูกระเบื้องแกรนิตโต้มาให้จรดเพดาน ไฟเป็นดาวน์ไลท์ค่ะ

ที่ผนังส่วนอาบน้ำจะมีเจาะช่องผนังเอาไว้ให้วางของได้ด้วยนะคะ เทียบขนาดฝักบัวกับมือให้ดู

ชอบอ่างล้างมือของห้องน้ำที่นี่นะคะ ทำเคาเตอร์มาให้ใหญ่ดี วางของได้เยอะอยู่ พร้อมมี Low Wall มาให้วางของเพิ่มด้วย กระจกเงาให้มาบานใหญ่ยาวสุดผนัง มีท่อระบายน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้

เข้าไปดูส่วนครัวกันต่อค่ะ

ภาพประตูครัวจากบ้านเปล่า ได้แบบนี้นะคะ เป็นประตูบานเลื่อน HDF ทาสีขาว

ภายในห้องครัวจะได้เคาเตอร์ท้อปหินแกรนิต ทำลิ้นชักและชั้นเก็บของแบบมีบานเปิดปิดมาให้ พร้อมอ่างล้างจานและเตาแบบสี่หัว ผนังส่วนนี้เป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีธรรมดานะคะ สำหรับคนชอบทำครัว ชอบผัดๆทอดๆ แนะนำให้หา Back splash กันผนังเปื้อน หรือติดกระเบื้องเพิ่มที่ผนังส่วนนี้เพื่อให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายในระยะยาวเพิ่มนะคะ ที่ผนังครัวเตรียมเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้เรียบร้อย

ด้านบนก็มีชั้นลอยพร้อมหน้าบานมาให้เก็บของเพิ่มค่ะ ระบบไฟจะติดอยู่ด้านบนในห้องครัวนี่ด้วย

พื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องเซรามิกนะคะ พอเปิดบานตู้ออกมาก็ยังพอเดินไปเดินมาได้อยู่

จากห้องครัวจะมีประตูเปิดออกไปลานหลังบ้านได้

ลานหลังบ้านมีชุดเคาเตอร์ครัวมาให้อีกชุด เป็นบ้านที่ให้ชุดครัวเยอะดีจริงๆค่ะ ตรงนี้มีมาให้ก็น่าจะใช้ประโยชน์ได้ดีนะคะ สำหรับล้างจาน สับปลา หักคอไก่หลังบ้าน หรือจะเอาเตามาตั้งไว้ทำอาหารไทยซึ่งมีกลิ่นและควันเยอะก็เหมาะ คือเป็นพื้นที่ที่คิดถึงการใช้งานจริงๆได้โอเค ผนังส่วนเหนือเคาเตอร์ครัวก็ติดกระเบื้องกันเปื้อนมาให้ พื้นลานปูกระเบื้องเซรามิกแยกโครงสร้างกับตัวบ้าน จะให้ดีน่าจะมีกันสาดมาให้ด้วย แต่ก็สามารถติดเพิ่มเองได้สบายๆค่ะ

เข้ามาดูส่วนโถงบันไดชั้นล่างกันต่อ

ที่โถงบันไดพื้นจะลดระดับลงไปหน่อยนะคะ มีห้องน้ำชั้นล่างแบบ Powder room อยู่ และที่เก็บของใต้บันได

ห้องเก็บของใต้บันไดค่ะ

มาดูห้องน้ำชั้นล่างกันต่อ เป็นห้องน้ำแบบ Powder room ก็คือไม่มีส่วนอาบน้ำ วัสดุใช้กระเบื้องแกรนิโต้สีครีม เดินลายด้วยกระเบื้องสีน้ำตาลนะคะ ไฟเป็นดาวน์ไลท์ สุขภัณฑ์ของ American Standard

อ่างล้างมือเป็นทรงสี่เหลี่ยม ทำเคาเตอร์มาให้วางของเพิ่มรอบๆได้ จะเห็นว่านอกจากวางสบู่เหลว หรือ ผ้าเช็ดมือได้แล้ว ยังสามารถวางแจกันดอกไม้ หรือของตกแต่งสวยๆช่วยทำให้บรรยากาศในห้องน้ำดูสวยขึ้นได้ง่ายด้วย

ผนังด้านหลังโถสุขภัณฑ์ก็เจาะช่อง วางกระจกเป็นชั้นวางของ สามชั้น มาให้ กระจกบานใหญ่ที่เห็นในห้องน้ำนี่เป็นกระจกฝ้านะคะ ช่วยนำแสงเข้ามาให้ได้เยอะหน่อย

ขึ้นบันไดไปดูชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดลูกนอนเป็นไม้แดงทำสีเข้ากับมือจับราวบันได ลูกตั้งทึบเป็นไม้ทาสีขาว ราวกันตกฝั่งเดียว เป็นเหล็กโปร่ง ทาสีเทา ชานพักบันไดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าเต็มแผ่นเดินสบายๆ

อันนี้ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ จะเห็นโถงบันไดโล่งๆ มีโคมผนังติดมาให้คู่นึง และเจาะช่องแสงมาให้สูงทีเดียว

ขึ้นมาชั้น 2 จะเป็นส่วนโถง ที่เป็นมุมห้องนั่งเล่นชั้น 2 หรือห้องอเนกประสงค์ของบ้านค่ะ จะเห็นว่าฝั่งซ้ายมือในภาพถ้าวางชั้นวางทีวีไปอย่างในบ้านตัวอย่างก็เหมาะค่ะ พื้นชั้นสองจะเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.

ฝั่งขวามือจัดเป็นโซนนั่งเล่น พร้อมโต๊ะกาแฟมาให้เห็นระยะการใช้งาน

มองไปทางฝั่งขวามือ จากบ้านเปล่าค่ะ จะเป็นทางเดินไปห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom ของบ้าน

ห้องนอนใหญ่มีขนาดกว้างขวาง วางเตียงคิงส์ไซส์ 6 ฟุต วาง Bed Bench ปลายเตียงแล้ว ยังมีที่นั่งเล่นบนพรม หรือระยะเดินได้รอบเดียงสบายๆ มีระเบียงใหญ่ ห้องน้ำ และ walk in closet ในตัว

ปลายเตียงทำชั้นวางทีวี Builtin มาให้ดูเป็นไอเดีย จะเห็นว่าข้างๆทำเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มได้สบายๆ

ข้างเตียงจะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงได้ ระเบียงกว้างพอวางชุดโต๊ะคู่ หรือเครื่องออกกำลังกายได้ พื้นปูกระเบื้องเซรามิก ลดระดับจากพื้นห้องนอน 5 cm. ราวกันตกเป็นกระจกเทมเปอร์ เฟรมเหล็กทาสีดำหน้าตาดูดีทีเดียว

จากระเบียงมองกลับไปด้านใน

อันนี้ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ ก็คือจะเห็นเป็นส่วนห้องน้ำทางฝั่งขวามือ และมุมยุบเข้าไปที่เหมาะจะเป็นส่วนวางตู้เสื้อผ้า หรือ Walk in closet อยู่

มุมระหว่างห้องน้ำกับห้องนอนค่ะ เราว่าบ้านส่วนมากจะติดภาพที่ผนังตรงนี้นะ หรือจะทำชั้นไว้วางหนังสือ หรือของสะสมสวยๆก็เหมาะ

มุมนี้บ้านตัวอย่างทำเป็นตู้เสื้อผ้า หน้าบานเป็นกระจกเงา ทำให้มุมห้องดูกว้างขึ้น

เข้าไปดูส่วนห้องน้ำกันต่อนะคะ

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ สเป็ควัสดุและสุขภัณฑ์จะคล้ายๆกับห้องน้ำห้องอื่นนะคะ แต่จะมีดีเทลบางส่วนเพิ่มขึ้นมา อย่างส่วนอาบน้ำจะมีฉากกั้นห้องอาบน้ำกระจกเทมเปอร์กั้นเพิ่มมาให้ และมีที่นั่งมาให้ในส่วนอาบน้ำด้วย

ฝักบัวก็มี Rain Shower และฝักบัวที่หน้าตาเป็นสีเหลี่ยมเข้าชุดกัน มีช่องที่ผนังไว้ให้วางสบู่ แชมพู ครีมนวด ได้

อ่างล้างมือนอกจากจะทำเคาเตอร์มาให้วางของเพิ่มแล้ว ด้านหลังอ่างล้างมือกับโถสุขภัณฑ์ยังมี Low wall ให้วางของได้อีกด้วย เคาเตอร์อ่างล้างมือและ Top ของ Low wall เป็นหินแกรนิตสีเทาเข้ากับผนังส่วนห้องอาบน้ำ

อีกฝั่งนึงของโถงบันได จะมีห้องนอนอีก 2 ห้อง เข้าไปดูห้องที่ติดกับห้องนั่งเล่นชั้น 2 นี่กันต่อค่ะ

ข้อดีของห้องนอนเล็กของบ้านใหญ่แบบนี้คือ มันไม่ได้เล็กค่ะ ทุกห้องในบ้านอยู่ได้ห้องละสองคนสบายๆเลย และมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง

จะเห็นว่าต่อให้วางเตียงคิงส์ไซส์ 6 ฟุตไป ก็ยังเหลือที่เดินรอบเตียงสบายๆอยู่ดี

ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ จะเห็นช่องแสงได้ชัดเจนขึ้นนะคะ

ปลายเตียงจะวางชั้นวางทีวี รวมโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มก็ทำได้ค่ะ บ้านตัวอย่างทำมาให้ดูเป็นไอเดีย

มุม walk in closet ตรงหน้าทางเข้าห้องน้ำนี้ก็วางตู้เสื้อผ้าหน้าบานกระจกเงามาให้ดูเป็นไอเดีย

บ้านเปล่าจะได้เป็นแบบนี้นะคะ

ห้องน้ำของห้องนอนเล็ก ส่วนอ่างล้างมือไม่มีเคาเตอร์มาให้นะคะ แต่มี Low wall ด้านหลังอ่างล้างมือกับโถสุขภัณฑ์ให้วางของเพิ่มได้ ส่วนอาบน้ำไม่มีกั้นห้องกระจกเทมเปอร์มาให้นะคะ แต่ลดระดับพื้นส่วนเปียกมาให้แล้ว สามารถกั้นเองได้โดยไม่ต้องก่อธรณีเพิ่มค่ะ

วัสดุคล้ายกันกับห้องอื่นนะคะ คือจะเป็นผนังแกรนิตโต้ ปูจรดเพดาน ส่วนอาบน้ำมีเจาะช่องมาให้วางของได้ และหน้าต่าง 1 บาน

ไปดูห้องนอนเล็กห้องสุดท้ายกันต่อค่ะ

ห้องนอนเล็กห้องนี้ก็มีขนาดกว้างขวางนอนได้ 2 คนสบายๆ และมีห้องน้ำในตัวเช่นกันค่ะ สังเกตว่าวางเตียงคู่แล้ว มีโต๊ะข้างเตียง 2 ฝั่ง แล้วยังสามารถ Bed bench ปลายเตียงได้ โดยยังเหลือที่เดินรอบๆอยู่ไม่อึดอัดนะคะ

ถ่ายภาพจากบ้านเปล่ามาให้ดูค่ะ จะเห็นว่าห้องนี้ได้หน้าต่างบานสูงที่ด้านข้างมาด้วยนะคะ

มุมนี้เป็นทางเดินไปห้องน้ำค่ะ ระยะพอวางตู้เสื้อผ้า หรือทำโต๊ะเครื่องแป้งได้ค่ะ

ห้องน้ำของห้องนอนเล็ก สเป็คเหมือนกันเลยค่ะ คือส่วนอ่างล้างมือไม่มีเคาเตอร์มาให้ แต่มี Low wall ด้านหลังอ่างล้างมือกับโถสุขภัณฑ์ให้วางของเพิ่มได้แทน ส่วนอาบน้ำไม่มีกั้นห้องกระจกเทมเปอร์มาให้แต่ลดระดับพื้นส่วนเปียกมาให้แล้ว สามารถกั้นเองได้โดยไม่ต้องก่อธรณีเพิ่มค่ะ

ผนังแกรนิตโต้ ปูจรดเพดาน ส่วนอาบน้ำมีเจาะช่องมาให้วางของได้ และหน้าต่าง 1 บาน

มองไปที่ฝั่งปลายเตียง ผนังติดกระจกมาให้ ระยะพอทำชั้นลอย และทีวีแบบแขวนผนังได้ค่ะ แต่ถ้าทำชั้นวางอาจไม่ค่อยเหมาะเพราะขวางทางเดินเข้าออกห้องนอน แต่ถ้าเป็นชั้นที่กว้างแค่ประมาณ 1.5 เมตร ลึก 30 ซม. ก็พอวางได้ค่ะ

แบบบ้าน: Cedar

พื้นที่ใช้สอย 267 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ
1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องรับประทานอาหาร
1 ส่วนเตรียมอาหาร 1 ครัวไทย 1 ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 3 คัน

แปลนบ้าน Cedar

ชั้น 1 ของ Cedar จะมีทางเข้า 2 ทาง ทั้งทางเข้าจากลานจอดรถ และ ทางเข้าจากเฉลียงหน้าบ้าน เข้ามาจะเจอส่วน ห้องรับแขก, ห้องรับประทานอาหาร, Pantry, ครัวไทย, ลานหลังบ้าน, ห้องแม่บ้าน, ห้องนอนชั้นล่าง และห้องน้ำชั้นล่างที่โถงบันได

ชั้น 2 ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำ 3 ห้อง และห้องอเนกประสงค์อีกห้องที่ส่วนด้านหน้าบ้าน และมีระเบียงขนาดใหญ่ที่ห้องอเนกประสงค์ด้วย ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัว มีระเบียงในห้องนอนไว้ให้วางแอร์คอมเพรสเซอร์มากกว่า ห้องนอนใหญ่จะมี Walkin closet และประตูเปิดออกไประเบียงด้วย

จะเห็นว่าบ้านแบบ Cedar นี่ทั้งแปลนและรูปแบบบ้านจะคล้ายๆกันกับแบบ Pine เลยนะคะ แต่มีขนาดเล็กกว่า เราจึงขออธิบายแปลนแล้วพาไปชมบ้านตัวอย่างหลังเล็กสุดที่ชื่อ Teak แทนเพราะพื้นที่และรูปแบบมีความแตกต่างกันมากกว่าค่ะ

Teak
พื้นที่ใช้สอย 203 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ
1 ห้องรับแขก 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องรับประทานอาหาร
1 ส่วนเตรียมอาหาร 1 ครัวไทย ที่จอดรถ 2 คัน

ชั้น 1 ของ Teak จะมีทางเข้า 2 ทาง ทั้งทางเข้าจากลานจอดรถ และ ทางเข้าจากเฉลียงหน้าบ้าน เข้ามาจะเจอส่วน ห้องรับแขก, ห้องรับประทานอาหาร, Pantry, ครัวไทย, ลานหลังบ้าน และห้องน้ำชั้นล่างที่โถงบันได

ชั้น 2 ประกอบด้วยห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำ 3 ห้อง และห้องอเนกประสงค์อีกห้องที่ส่วนด้านหน้าบ้าน ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัว มีระเบียงในห้องนอนไว้ให้วางแอร์คอมเพรสเซอร์มากกว่า

วัสดุต่างๆในบ้านเปล่า Teak จะเหมือนๆกันกับบ้านแบบอื่นๆนะคะ ส่วนที่ต่างคือขนาดพื้นที่และการจัดผัง เดี๋ยวจะพาไล่ดูกันไปทีละส่วนที่ต่างกันนะคะ ส่วนแรกคือลานจอดรถ Teak จะจอดได้ 2 คัน หลังคาลานจอดรถกันแดดกันฝนได้ไม่เต็มคันเหมือนกันนะคะ

ที่ลานจอดรถมีที่เก็บของมาให้ และมีทางเข้าบ้านจากลานจอดรถ ยกพื้นขึ้นไป 1 step และส่วนเฉลียงหน้าบ้านจะยกพื้นขึ้นไป 2 steps

ประตูทางเข้าที่เฉลียงหน้าบ้านของ Teak จะเป็นบานเลื่อนกระจกเขียวตัดแสง เฟรมอลูมิเนียมดำ เหมือนกับหน้าต่างและประตูบานเลื่อนส่วนอื่นๆของบ้าน ประตูบานเลื่อนเป็นแบบเปิดบานเดียว

ภาพซ้าย: ด้านนอกประตูบานเลื่อนจะเป็นรูไขกุญแจ ภาพขวา: ด้านในจะเป็นมือจับหูช้าง

วัสดุภายในบ้านจะเหมือนกันกับแบบอื่นๆนะคะ คือ หน้าต่างให้มาเป็นบานเลื่อนกรอบ อลูมิเนียมสีดำทั้งหมด ให้มาบานใหญ่ดีค่ะ ทำให้บ้านดูสว่างและโปร่ง บวกกับตัวบ้านมีฝ้าเพดานที่ให้มาสูงอยู่แล้วคือ 2.8 ม. ใครชอบทำฝ้าเพดานซ่อนไฟ ซ่อนม่าน สั่งทำเฟอร์บิลด์อิน เจอฝ้าสูงแบบนี้คงชอบค่ะ ไฟดาวน์ไลท์ให้ทั้งหลัง พื้นปูกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. ผนังติดวอลเปเปอร์พร้อมบัวสีขาวมาให้

จากพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นมองเข้าไปส่วนรับประทานอาหาร บ้านตัวอย่าง Teak จะไม่ได้จัดเฟอร์กับทำอินทีเรียมานะคะ เห็นแบบไหนบ้านเปล่าของจริงก็ได้แบบนั้นเลย

ส่วนห้องอาหาร จะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปเฉลียงข้างบ้านได้

เฉลียงข้างบ้านปูกระเบื้องลายไม้แบบนี้ เหมาะจะเอาหมอนอิงมานอนเล่นอ่านหนังสือ นอนเล่นกับสัตว์เลี้ยงไปชมสวนไปในวันอากาศดีๆ บางคนอาจเอาชุดโต๊ะเก้าอี้ 2 ที่นั่งมาตั้งก็ได้อยู่

ถัดจากส่วนห้องทานอาหาร เป็นส่วน Pantry และประตูเข้าห้องครัวไทย ฝั่งขวามือของประตูเตรียมเต้าเสียบเอาไว้ ตำแหน่งเหมาะจะใช้วางตู้เย็น

Pantry ให้ชุดครัวมาสองฝั่งแบบนี้ค่ะ ก็ดูใช้งานสะดวกดี ประตูที่เห็นเป็นประตูทางเข้าห้องครัวไทย

ในห้องครัวไทยพื้นปูกระเบื้องเซรามิก มีเตรียมท่อระบบประปาไว้ให้ ไฟส่วนในครัวไทยนี้จะเป็นแบบโคมซาลาเปานะคะ มีประตูเปิดออกไปลานหลังบ้าน

พื้นลานหลังบ้านปูกระเบื้องเซรามิก แยกโครงสร้างมาให้ มีเคาเตอร์ครัวมาให้พร้อมปูกระเบื้องเซรามิกที่ผนังกันเปื้อนมาให้ด้วย ส่วนนี้เหมาะกับใช้ทำครัวแบบผัด ทอด หนักๆได้

ส่วนลานหลังบ้านนี้ไม่มีหลังคาหรือกันสาดให้นะคะ ถ้าใช้พื้นที่ส่วนนี้บ่อยแนะนำให้ติดกันสาดเพิ่มค่ะ เป็นเราจะทำเคาเตอร์เพิ่มด้วย ต่อยาวมาเลย เพิ่มพื้นที่ในการประกอบอาหารได้อีกเยอะเลย หรือจะวางเป็นโต๊ะไม้ต่อมาแทนก็ได้

เข้ามาดูในบ้านกันต่อค่ะ ในภาพเป็นทางเดินไปโถงบันไดขึ้นชั้น 2 จะเห็นประตูเปิดออกไปลานจอดรถ

ข้างโถงบันไดจะเป็นทางเดินไปห้องน้ำชั้นล่าง ใต้โถงบีนไดจะมีประตูห้องเก็บของอยู่

พื้นห้องเก็บของปูกระเบื้องเซรามิกแบบนี้

ห้องน้ำชั้นล่างเป็นแบบ Powder room คือไม่มีส่วนอาบน้ำนะคะ พื้นและผนังเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ สุขภัณฑ์เป็นของ American Standard อ่างล้างมือไม่ได้ทำเคาเตอร์มาให้วางของเพิ่มเหมือนบ้านแบบ Pine นะ แต่แนะนำว่าทำเพิ่มก็ได้ที่เก็บของกับวางของเพิ่มอีก

ผนังห้องน้ำปูจรดเพดาน ไฟเป็นดาวน์ไลท์ มีเจาะช่องผนังทำที่วางของมาให้เหมือนกัน และช่องแสงเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน

ขึ้นไปดูข้างบนกันต่อค่ะ บันไดลูกนอนเป็นไม้แดงทำสีเข้ากับมือจับราวบันได ลูกตั้งทึบเป็นไม้ทาสีขาว ราวกันตกฝั่งเดียว ทางขวามือเป็นเหล็กโปร่ง ทาสีเทา

จากชั้นสองมองกลับไปที่โถงบันไดค่ะ ชานพักบันไดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าเต็มแผ่นเดินสบายๆ

ขึ้นมาชั้น 2 โถงบันไดจะเจอส่วนห้องอเนกประสงค์ และจากโถงนี้จะแจกไปที่ห้องนอนทั้งสามห้องนะคะ

ส่วนพื้นที่อเนกประสงค์ส่วนนี้เป็นห้องที่กว้างแค่ประมาณ 1.8 ม. แต่ลึกพอสมควร สามารถทำเป็นห้องนั่งเล่นชั้น 2 ได้

ติดกับฝั่งทางขึ้นลงบันไดเป็นห้องนอนใหญ่ หรือ Master bedroom ของบ้านค่ะ

หันไปทางขวามือ จะเป็นส่วนของเตียงนอนนะคะ ระยะพอวางเตียงคู่ และ bed bench ได้สบายๆ และวางชั้นวางทีวีปลายเตียงได้อีก

หันไปทางซ้ายมือ จะเป็นประตูออกไปโถงบันได และทางไปห้องน้ำในห้องนอน หน้าทางเข้าห้องน้ำยุบไปเป็นมุมที่สามารวางตู้เสื้อผ้าได้ และมีมุมผนังใกล้ประตูทางออกไปโถงบันไดอีกจุดที่สามารถวางตู้เสื้อผ้าหรือโต๊ะทำงานได้

ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ พื้นจะลดระดับลงไปจากห้องนอนประมาณ 5 cm.

สเป็ควัสดุและสุขภัณฑ์จะคล้ายๆกับห้องน้ำห้องอื่นนะคะ แต่จะมีดีเทลบางส่วนเพิ่มขึ้นมา อย่างส่วนอาบน้ำจะมีฉากกั้นห้องอาบน้ำกระจกเทมเปอร์กั้นเพิ่มมาให้ และมีที่นั่งมาให้ในส่วนอาบน้ำด้วย มี Rain Shower มาให้ และฝักบัวที่หน้าตาเป็นสีเหลี่ยมเข้าชุดกัน มีช่องที่ผนังไว้ให้วางสบู่ แชมพู ครีมนวด ได้

ส่วนอ่างล้างมือทำเคาเตอร์มาให้ และมี low wall ต่อไปจนสุดผนังให้วางของเพิ่มได้ด้วย จะเห็นว่าที่ผนังมีเตรียมเต้าเสียบปลั๊กไฟสำหรับไดร์เป่าผมมาให้

ออกมาจากห้องนอนใหญ่ มองไปอีกฝั่งจะเป็นทางแจกไปห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง

เข้ามาดูห้องซ้ายกันก่อนนะคะ ก็จะมีหน้าต่างบานเลื่อนมาให้ 2 ฝั่ง

พื้นที่พอวางเตียงคู่ กับตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานได้อยู่นะคะ

มองไปฝั่งประตู จะเห็นทางเข้าไปห้องน้ำในห้องนอนเล็กอยู่

สเป็ควัสดุและสุขภัณฑ์จะเหมือนๆกันกับห้องน้ำห้องอื่นๆค่ะ อ่างล้างมือไม่มีเคาเตอร์มาให้ แต่มี Low wall ด้านหลังอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ให้วางของแทน

ส่วนอาบน้ำไม่มีกั้นห้องกระจกเทมเปอร์มาให้นะคะ แต่ลดระดับพื้นส่วนเปียกมาให้แล้ว สามารถกั้นเองได้โดยไม่ต้องก่อธรณีเพิ่มค่ะ ฝักบัวจะไม่เหมือนกับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่นะคะ แต่ที่ผนังห้องอาบน้ำจะมีเจาะช่องมาให้วางของได้เหมือนกัน

ไปดูห้องนอนเล็กห้องสุดท้ายกันต่อเลยค่ะ

ห้องนอนเล็กห้องนี้ขนาดและลักษณะพื้นที่เหมือนๆกันกับห้องนอนเล็กอีกห้องแทบทุกอย่างเลยค่ะ มีหน้าต่างบานเลื่อนมาให้สองฝั่งเหมือนกัน บางคนอาจไม่ทำเป็นห้องนอน แต่ใช้เป็นห้องทำงานแทนก็ได้เหมือนกัน

มองไปอีกฝั่งเป็นประตูห้องนอน และประตูห้องน้ำ

ห้องน้ำสเป็ควัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนห้องน้ำในห้องนอนเล็กอีกห้องทุกอย่างค่ะ อ่างล้างมือไม่มีเคาเตอร์มาให้ แต่มี Low wall ด้านหลังอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ให้วางของแทน

ส่วนอาบน้ำไม่มีกั้นห้องกระจกเทมเปอร์มาให้ แต่ลดระดับพื้นส่วนเปียกมาให้แล้ว สามารถกั้นเองได้โดยไม่ต้องก่อธรณีเพิ่ม ที่ผนังห้องอาบน้ำจะมีเจาะช่องมาให้วางของได้เหมือนกัน

สรุป

♦ ทำเลที่ตั้งโครงการ : The City รามอินทรา ตั้งอยู่บนถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก เข้ามาในซอยกาญจนาภิเษก 5/7 ประมาณ 80 เมตร สภาพแวดล้อมบริเวณรอบโครงการสงบและเป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะโดยรอบส่วนมากจะเป็นหมู่บ้านจัดสรรสูง 2 ชั้น

ถนนทางเข้าออกซอยโครงการเป็นถนนสาธารณประโยชน์ที่กว้างและสะอาด หลักๆใช้ร่วมกับหมู่บ้านจัดสรรอีก 2 โครงการคือ The Plant และ The Connect ถือว่ามีความสงบเป็นส่วนตัวเพราะอยู่ในซอยตื้นๆ และตัน แถมในซอย มีแต่หมู่บ้านจัดสรรรวมกันแล้วแค่ 3 โครงการ จึงไม่พลุกพล่านวุ่นวาย และคุมความปลอดภัยได้ง่ายเพราะมีรปภ. จากหน้าซุ้มโครงการทั้ง 3 โครงการช่วยกันดูแลสอดส่อง

เรื่องความอุดมสมบูรณ์ ในซอยโครงการ จะมีร้านอาหารตามสั่ง และร้านขายกาแฟ อยู่อย่างละร้านสองร้าน แต่ถ้าอยากได้ร้านอาหารนอกห้างราคาไม่แพงกับพวกร้านสะดวกซื้อ และร้านอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะร้านทำผมหรือไปธนาคาร ไปวัด ไปสถานีตำรวจ ใกล้สุดจะเป็นโซนชุมชนในเส้นถนนคู้บอนซึ่งก็ควรขับรถไปนะคะ เพราะห่างจากโครงการแค่ประมาณ 2 กิโลเมตรก็จริง แต่ทางไปเป็นถนนรถวิ่ง จะให้เดินไปก็ไม่ปลอดภัยเท่าไหร่

ส่วนห้างใหญ่อย่าง Fashion Island กับ Promanade ก็นับว่าอยู่ใกล้เลยค่ะ แค่ประมาณ 4 – 5 กม. เท่านั้น ขับรถไปถ้ารถไม่ติด 10 นาทีก็ถึงค่ะ ก็ถือเป็นทำเลที่คนขับรถน่าจะชอบกันในหลายๆด้านค่ะ เพราะห้างกับร้านค้าต่างๆมีเยอะนะคะ แต่กระจายตัวรอบๆอยู่ในระยะที่ต้องขับรถไปทั้งนั้น

♦ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : . การเดินทางสำหรับคนขับรถถือว่าสะดวกเลยค่ะเพราะโครงการอยู่ห่างจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ด่านจตุโชติ แค่ประมาณ 4.5 ก.ม. ใครมีเส้นทางที่ใช้ทางด่วนเป็นประจำก็สะดวกใช้ได้เลย ถ้าไม่ขึ้นทางด่วน โครงการอยู่ห่างจากถนนรามอินทราประมาณ 3 ก.ม. จากรามอินทรา วิ่งออกไปพหลโยธิน ไปลาดพร้าว หลักสี่ หรือไปมีนบุรีได้ หรือจจากโครงการวิ่งเส้นวงแหวน ออกไปสายไหม ไปรังสิต ลำลูกกาก็ได้เช่นกันค่ะ

♦ การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ปกติถ้าจากโครงการเลย จะเป็นรถแท็กซี่ มากกว่าอย่างอื่นค่ะ เป็นทำเลที่ไม่เหมาะกับคนไม่ขับรถเท่าไหร่ เพราะรอบๆโครงการไม่ได้มีรถสาธารณะบริการมากนัก แต่ในอนาคต หลายๆปีข้างหน้า เส้นรามอินทราจะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูวิ่งผ่าน และเส้นสายไหมลำลูกกาก็มีแผนรถไฟฟ้าวิ่งผ่านเช่นกัน ก็เป็นข้อมูลที่อาจช่วยในการตัดสินใจได้นะคะ

♦ บ้านและวัสดุ : โครงการนี้ ออกแบบภายใต้แนวคิด บ้านเดี่ยวสไตล์ Tropical Modern รูปแบบภายนอกบ้านดูทันสมัย เหมาะกับบ้านเมืองร้อน วัสดุที่ให้มาก็อยู่ในระดับมาตรฐานค่อนข้างดี และออกแบบฟังก์ชั่นมาแบบใส่ใจรายละเอียดดี พื้นที่ใช้งานแต่ละส่วนมีความลงตัวและคิดมาเยอะเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ แต่ก็มีบางจุดก็ต้องทำเพิ่มเอง เช่นการกั้นทำกันสาดเพิ่ม หรือทำเคาเตอร์ห้องน้ำเล็กเพิ่มที่วางของ เป็นต้น

โดยบ้านที่ทางโครงการขาย จะเป็นบ้านมาตรฐาน (บ้านเปล่า) + เคาน์เตอร์ครัวแบบพร้อมใช้งาน (เคาน์เตอร์ + เตาแก๊ส 4 หัว, เครื่องดูดควัน + ซิงค์ล้างจานสแตนเลส ของ Teka มีชั้นลอยติดตั้งเข้าชุดมาเลย)

ผนังบ้านติดวอลเปเปอร์ และ ฝ้าเพดานยิปซั่มฉาบเรียบทาสีขาว, ไฟดาวน์ไลท์, ลานจอดรถเป็นคอนกรีตสแตมป์, เฉลียงหน้าบ้านและลานหลังบ้านปูกระเบื้องเซรามิก พื้นบ้านชั้นล่างปูแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม. ส่วนพื้นบ้านชั้นบนปูพื้นไม้ลามิเนต 8 มม. สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ American Standard

ประตูและหน้าต่างภายในบ้านบานใหญ่ กรอบเป็นอลูมิเนียม สีดำ กระจกเขียวตัดแสง ติดมาหลายบาน ทำให้บ้านมีความสว่าง โปร่งและไม่อับทึบ ห้องน้ำทุกห้องมีหน้าต่างบานกระทุ้ง ติดมาให้

♦ สิ่งอำนวยความสะดวก : มี Club House ที่มีสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส และสวนสาธารณะมาให้ ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่รอบๆ Club House ลงต้นไม้ใหญ่ เล็ก ให้ความร่มรื่นค่อนข้างเยอะ โครงการรักษาภูมิทัศน์ภายในโครงการ และรอบๆโครงการได้ดีค่ะ ถนนในโครงการมีปลูกต้นไม้ข้างทาง มีแนวพุ่มไม้ข้างรั้วตัดแต่งเป็นระเบียบ ทางเท้าปูหญ้าและวางแผ่นหินสำหรับเดินให้ ปรับปรุงถนนสาธารณประโยชน์ซึ่งใช้ร่วมกันกับโครงการอื่นๆให้ดูสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย มีแนวพุ่มไม้ตกแต่ง มีทางเท้า มีไฟถนน

♦ ระบบรักษาความปลอดภัย แบบ Double Security เข้า-ออกโครงการด้วย Key Card Access ระยะใกล้ + CCTV จับภาพป้ายทะเบียน และคนขับฝั่งละ 2 ตัว รั้วกั้นไม้กระดกอัตโนมัติ พร้อมประตูรั้วบานเลื่อนอีกชั้น เพื่อความปลอดภัย ภายในโครงการติดตั้ง CCTV ทั่วโครการ รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.ค่ะ ส่วนตัวบ้านมีสัญญาณกันขโมยติดแบบ Shock Senser และ Magnetic Sencer ให้ทุกหลัง เพิ่มความปลอดภัยไปอีกระดับ แต่ละซอยในโครงการก็ค่อนข้างตื้นนะคะ ตรวจตราดูแลความปลอดภัยได้ง่าย จำนวนบ้านก็ไม่เยอะด้วย

คะแนน

ราคา

♦ Teak แปลง J03 เนื้อที่ 58.1 ตร.ว. ราคาปกติ 8,590,000 ราคาพิเศษ 7,990,000 บาท

– เงินจอง 50,000 บาท
– เงินทำสัญญา 300,000 บาท

♦ Cedar แปลง J01 เนื้อที่ 68.6 ตร.ว. ราคาปกติ 9,900,000 ราคาพิเศษ 8,990,000 บาท

– เงินจอง 50,000 บาท
– เงินทำสัญญา 300,000 บาท

♦ Pine แปลง B05 เนื้อที่ 80.0 ตร.ว. ราคาปกติ 13,500,000 ราคาพิเศษ 11,990,000 บาท

– เงินจอง 50,000 บาท
– เงินทำสัญญา 300,000 บาท

สอบถามรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่

สำนักงานขาย : 02-181-1570

WEBSITE : www.apthai.com/บ้านเดี่ยว/the-city/the-city-รามอินทรา/#gallery

หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

แนะนำบ้านคุณภาพ เอพี ปี 2015 มีโครงการไหนน่าอยู่บ้าง?

สวัสดีครับชาว Homenayoo ทุกท่านวันนี้ผมมีบทความพิเศษมาฝากกับบทความ “แนะนำบ้านคุณภาพ เอพี ปี 2015 มีโครงการไหนบ้าง?” ถ้าพูดถึงโครงการบ้านในการตัดสินใจเลือกซื้อปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพ ชีวิตที่ดีเรื่องแรกเลย คือ ทำเลที่ตั้ง ตัวโครงการถ้าตั้งอยู่ในพื้นที่ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น สถานพยาบาล สถานศึกษา สถานที่ราชการ สถานีตำรวจ แหล่งงาน ระบบขนส่งสาธารณะ ระบบสุขาภิบาล โครงข่ายการคมนาคม และอีกหลายๆปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินชีวิต ถ้าทำเลอยู่ใกล้สิ่งเหล่านี้แน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้ อยู่อาศัยแน่นอนครับ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างหนี่งซึ่งจะเกี่ยวกับคุณภาพของบ้าน นั่นก็คือ วัสดุที่เลือกนำมาใช้ในการก่อสร้างนั้นต้องเป็นวัสดุที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานสากล และต้องเลือกใช้ให้เข้ากับคุณสมบัติของตัวบ้าน ซึ่ง AP ก็เป็นบริษัทหนึ่งที่มีความพิถีพิถันในการเลือกวัสดุต่างๆมาใช้ เพื่อทำให้บ้านออกมามีคุณภาพ ส่งผลดีให้กับลูกบ้านในโครงการนั้น เห็นได้จากโครงการต่างๆ และผลตอบรับที่ผ่านมาครับ เรามาดูกันว่าโครงการบ้านของ AP ในปี 2015 มีโครงการไหนที่น่าสนใจบ้าง

THE CITY นวมินทร์

โครงการแรกที่จะพูดถึงวันนี้เพิ่งจะเปิด Pre-Sale ไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา AP ได้สร้างปรากฎการณ์ปลุกกระแสตลาดบ้านเดี่ยวอีกครั้งกับการเปิดขายรอบพิเศษโครงการ The City นวมินทร์ บ้านเดี่ยวพรีเมี่ยมดีไซน์โมเดิร์น จับกลุ่มลูกค้าครอบครัวระดับกลาง – บน โดยมีลูกค้าให้ความสนใจซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองเป็นจำนวนมาก ทำให้สามารถโกยยอดขายรอบพิเศษ มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อครับ ซึ่งปัจจัยของการเลือกซื้อ The City นวมินทร์ คือ “ศักยภาพของทำเล” และ “แพ็คเกจราคา” เป็นคำตอบสำคัญอันดับแรกในการตัดสินใจ

โดยโครงการ The City นวมินทร์ มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท จำนวนทั้งสิ้น 108 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 8.59 ล้านบาท บ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ในสไตล์สถาปัตยกรรมมเดิร์น พร้อมตอบการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 185 – 230 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ห้องพักผ่อน ห้องแม่บ้าน พร้อมเรือนรับรอง และที่จอดรถ 2 คัน นับได้ว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวเพียงโครงการเดียวในทำเล “ใจกลางนวมินทร์” ที่พร้อมตอบสนองความสมบูรณ์แบบของการใช้ชีวิต

The City นวมินทร์ ตั้งอยู่ในซอยนวมินทร์ 53 แต่เข้าซอยไม่ได้ลึกมาก เกือบจะติดกับถนนหลักอย่างถนนนวมินทร์ บรรยากาศโครงการค่อนข้างเงียบสงบเนื่องจากส่วนใหญ่รอบๆเป็นบ้านพักอาศัย ในซอยจึงไม่พลุกพล่านเท่าไหร่ ค่อนข้างเป็นส่วนตัวครับ การเดินทางออกจากซอยมาก็จะเข้าสู่ถนนนวมินทร์ ซึ่งเป็นถนนที่มีความยาวประมาณ 9 กม. มีทิศทางมุ่งขึ้นไปทางทิศเหนือ ผ่านพื้นที่เขตบึงกุ่ม ไปสิ้นสุดที่แยกตัดกับถนนรามอินทรา(บริเวณ กม.8) ในเขตคันนายาว มีจุดเริ่มต้นที่สี่แยกบางกะปิ ซึ่งเป็นจุดตัดระหว่าง ถนนลาดพร้าว ถนนเสรีไทย และ ถนนพ่วงศิริ แต่ละเส้นก็จะเชื่อมไปยังที่ต่างๆ ได้ทั้งเดินทางเข้า-ออกเมือง ค่อนข้างจะเลือกใช้เส้นทางได้พอสมควรครับ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ ออกมาหน้าปากซอยนวมินทร์ 53 มีป้ายรถเมล์ใกล้ๆโบกขึ้นได้เลยมีรถวิ่งผ่านหลายสาย หรือจะเรียก Taxi ก็ได้ครับมีวิ่งตลอดทั้งคืน หรือถ้าใครชอบเดินทางด้วยเรือ สามารถไปใช้บริการเรือคลองแสนแสบได้ที่ท่าเรือบางกะปิ และท่าเรือเดอะมอลล์บางกะปิครับ ระยะห่างจากโครงการประมาณ 3 กม. ในอนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองจะผ่านแถวๆสี่แยกบางกะปิ แต่คงต้องรออีกหน่อย ถ้าสร้างเสร็จพร้อมใช้ขึ้นรถไปต่อรถไฟฟ้าได้ที่นี่ก็สะดวกดี

สถานที่สำคัญใกล้เคียงโครงการนี้ต้องบอกว่าแทบจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิต ตั้งแต่สถานที่ราชการบนเส้นถนนนวมินทร์เอง มีทั้งสถานีตำรวจ โรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือแม้กระทั่งตลาดสด

สาธารณูปโภคของโครงการเป็นปัจจัยอีกอย่างนึงที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของลูกบ้านในโครงการ และยังเพิ่มมูลค่าให้โครงการอีกด้วยครับ โครงการนี้มี Club House ส่วนกลาง 2 ชั้น มีสระว่ายน้ำแบบนำ้ล้นระบบเกลือ มีมุมสำหรับนั่งเล่น มีห้องออกกำลังกาย ห้องอเนกประสงค์ไว้ทำกิจกรรมอย่างโยคะได้ รอบๆ Club House จัดเป็นสวนหย่อมมีทั้งไม้ใหญ่ และไม้พุ่ม ตกแต่งได้สวยงาม มีมุมนั่งเล่นใต้ต้นไม้ พร้อมกับเนินสนามเด็กเล่น

โครงการมีบ้านให้เลือกถึง 3 แบบ โดยการออกแบบบ้านโครงการนี้ทำออกมาให้เลือกตามขนาดของผู้อยู่อาศัยได้ลงตัว ตั้งแต่ตัวภายนอกบ้านดูทันสมัยออกแนว Modern Loft สีแต่ละหลังออกโทนเดียวกันคือ เทา เทาเข้ม ครีม เน้นกระจกเป็นส่วนใหญ่ทำให้รับแสงเข้าไปยังในบ้านได้ ถ้านอกบ้านจัดสวน สวยๆได้วิวดีแน่นอน แต่ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่ของบ้านด้วย การจัดวางตำแหน่งของห้องต่างๆในบ้านทำออกมาได้เป็นสัดส่วน บ้านทุกหลังติดตั้งสัณญาณกันขโมยแบบ Magnetic และ Shock Sensor เพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกบ้าน โครงการนี้ผมมีโอกาสได้เข้าไปดูบ้านตัวอย่างมาแล้วต้องบอกว่าตกแต่งมาได้สวย ทำออกมาดูน่าใช้งานดีครับ โดยวัสดุที่นำมาใช้ต้องบอกว่าได้เกรดมาตรฐานค่อนข้างไปทางดีครับ ตั้งแต่ประตูหน้าบ้าน และหน้าต่างทุกบานได้กระจกใสเขียวตัดแสง บานเลื่อนกรอบประตูเป็น UPVC สีขาว พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. และในห้องนอน 4 และพื้นชั้น 2 เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ไฟได้ดาวน์ไลท์ทุกห้อง ห้องครัว Built-in ชุดครัวให้เป็นเคาท์เตอร์สำเร็จรูปท็อปหินสีดำ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้ของ Kohler ทั้งหมด จะเห็นได้ว่าทาง AP จะเลือกใช้วัสดุที่ได้มาตฐานมาใช้ ส่งผลให้คุณภาพบ้าน AP อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานครับ ยังไงใครที่ผ่านไปมาแถวๆโครงการก็ลองแวะเข้าไปชมโครงการกันได้นะครับ เซลล์ แอบกระซิบมาว่า มีโปรโมชั่นดีๆรออยู่นะ ^_^

MIND พระราม 2 – สาทร

มาต่อกันที่โครงการที่สองกับโครงการ MIND พระราม 2 – สาทร เป็นโครงการที่น่าสนใจอีกโครงการหนึ่งที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ THE MODERN SIDE OF GOOD LIFE MIND สถาปัตยกรรมบ้านโมเดิร์นรีไฟน์แบบ 3 ชั้น ที่ผ่านขบวนการคิดอย่างรอบคอบ เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตเมืองที่เคลื่อนไหวอย่างมีพลัง ในทำเลที่เชื่อมติดความสะดวกสบายของเมืองได้อย่างครบถ้วนและออกแบบพื้นที่ความสุขใหม่ ในการใช้ชีวิตและการใช้สอยในทุกตารางนิ้วของบ้านได้อย่างมีอิสระและสร้างสรรค์

โครงการตั้งอยู่ในซอยพระรามสอง 28 ซึ่งเป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนนพระรามสอง และถนนจอมทองโดยสามารถมาทะลุออกถนนพระรามสอง และใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนดาวคะนอง ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตก และวงแหวนอุตสาหกรรม ถ้าจะออกไปฝั่งจอมทองก็ไปทะลุออกซอยจอมทอง 19 ผ่านถนนวุฒากาศ ราชพฤกษ์ เข้าสู่ย่านธุรกิจสาทร และสีลมได้ หรือขึ้นรถไฟฟ้า BTS ที่สถานีวุฒากาศ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงถึงแม้จะอยู่ในซอยแต่ถ้าออกมาถนนหลักมี่ทั้งโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์บางบอน 3 โรงเรียนรุ่งอรุณ โรงเรียนอัสสัมชัญ แคมปัสบางขุนเทียน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี รวมไปถึงสาถนพยาบาลอย่างโรงพยาบาลบางประกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล โรงพยาบาลบางมด โรงพยาบาลนครธน โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า (กรมแพทย์ทหารเรือ) ระยะทางก็ไม่ได้ห่างจากโครงการเท่าไหร่ครับ

ความอุดมสมบูรณ์รอบๆ โครงการภายในซอยก็มีร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารต่างๆ นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้าย่านนี้ใกล้ๆมี The Mall ท่าพระ, Big C ดาวคะนอง, Central พระรามสอง, Home Pro พระรามสอง, Big C ท่าข้าม

Club House 2 ชั้น มีครบทุกฟังก์ชั่นการใช้งานเปิดโล่งเชื่อมกับสวนในมุมมองแบบ Modern Landscape

ในโครงการมีบ้านให้เลือก 3 แบบ ตามสไตล์การใช้งาน และพื้นที่ใช้สอยที่ต่างกันครับ แบบบ้านเป้นแบบโมเดอร์นรีไฟน์ 3 ชั้นให้ความสุขเติมเต็มในทุกพื้นที่การใช้งาน

แบบแรก REFINED 453 พื้นที่ใช้สอย 234 ตรม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ, ห้องรับแขก, ห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร, ครัวไทย, ที่จอดรถ 4 คัน ภายนอกตกแต่งด้วยสีโทนเทาเข้ม-อ่อน สีเบจ เล่นลวดลายที่ Facade เน้นกระจกเกือบทุกห้องช่วยให้แสงผ่านเข้าไปในตัวบ้านได้

แบบสอง REFINED 553 พื้นที่ใช้สอย 235 ตรม. 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ, ห้องรับแขก, ห้องอเนกประสงค์, ห้องรับประทานอาหาร, ครัวไทย, ห้องแม่บ้าน, ที่จอดรถ 3 คัน แบบนี้จะต่างจากแบบแรกนิดหน่อยครับ คือเพิ่มห้องแม่บ้านมาให้แต่ลดจำนวนที่จอดรถไป 1 คันครับ

แบบสุดท้ายขนาดใหญ่สุดของโครงการ REFINED 653 พื้นที่ใช้สอย 256 ตรม. 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ, ห้องรับแขก, ห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร, ครัวไทย, ห้องแม่บ้าน, ที่จอดรถ 3 คัน ภายนอกใช้สีโทนเดียวกับสองแบบแรก ได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นแต่ละห้องก็สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นตามการใช้งานของแต่ละคนได้ครับ

โครงการนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่อยากได้บ้านเดี่ยว 3 ชั้น เนื่องจากแบบบ้านโครงการนี้น่าจะเป็นจุดเด่นให้กับคนที่ชอบพื้นที่ใช้สอยเยอะๆ หรือเป็นครอบครัวใหญ่ ชอบพื้นที่ส่วนตัวแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างลงตัว พร้อมกับทำเลที่สามารถเดินทางเข้าใจกลางย่านธุรกิจอย่าง สาทร สีลม ได้สะดวกถ้าไม่พูดถึงเรื่องการจราจรที่ติดขัด ก็ถือได้ว่าสะดวกครับ

บ้านกลางเมือง พระราม 2

บ้านกลางเมือง พระราม 2 เปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางเดือนกันยายน 2558 ที่ผ่านมา AP มองว่าส่วนแบ่งตลาดแนวราบตลอดที่ผ่านมาจะพบว่า AP มีความโดดเด่นอย่างมากในตลาดทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้นในเมือง โดยครอบครองส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 43% ดังนั้น AP จึงพร้อมนำความชำนาญในการพัฒนาที่อยู่อาศัย แตกไลน์สินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ บ้านกลางเมือง เพื่อเจาะตลาดครอบครัวในเมืองระดับพรีเมี่ยมที่มองหาที่อยู่ที่มีระดับ พร้อมพื้นทีใช้สอยและฟังก์ชั่นการใช้งานที่มากขึ้น แวดล้อมไปด้วยการเดินทางที่หลากหลาย และในปีนี้ AP พร้อมเปิดตัวโครงการแรก บ้านกลางเมือง พระราม 2 ภายใต้ Concept บ้านแนวคิดใหม่ X-TREND ขยายความสุขดั่งใจบนพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น

คุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เผยว่า ด้วยทำเลศักยภาพโซนพระราม 2 ที่สามารถเชื่อมต่อสู่ CBD อย่างสาทร – สีลม และ พระราม 3 ได้สะดวก ทำให้การแข่งขันที่ดุเดือดในทำเลดังกล่าว และจากการสำรวจ Supply พบเฉพาะบ้านเดี่ยว และ ทาวน์เฮ้าส์เท่านั้น โดยปัจจุบันไลฟ์สไตล์ครอบครัวคนเมืองยุคใหม่ หันมาเน้นประโยชน์จากพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น โดยไม่ต้องการพื้นที่สวนมากนัก ดังนั้นทาง AP จึงใช้ช่องว่างทางธุรกิจนี้ ต่อยอดพัฒนา บ้านแฝดในเมือง รวมจุดแข็ง เพิ่มฟังก์ชั่นความเรียบหรูแบบบ้านเดี่ยว และ ขยายสเปซเต็มพื้นที่แบบทาวน์เฮ้าส์ ในแพ็คเกจราคาขายที่กลุ่มเป้าหมายมองหา และ สามารถจับต้องได้

ตัวโครงการตั้งอยู่ใน พระราม 2 ซ. 50 จากปากซอยประมาณ 1 กม. โดยทำเลโครงการอยู่ในโซนพระราม 2 ซึ่งเป็นโซนยอดฮิตหมู่บ้านจัดสรรของ Developer หลายเจ้า AP ก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ เนื่องจากถนนพระรามสองเป็นถนนที่สามารถไปเชื่อมออกยังเส้นหลักต่างๆได้ หรือแม้แต่กระทั่งเชื่อมกับซอยย่อยแล้วไปออกเส้นหลักก็ทำได้ครับ ถนนพระรามสอง เป็นถนน 8 ช่องจราจร มีเกาะกลาง และมีถนนคู่ขนานอีกฝั่งละ 2 ช่องจราจร มีรถวิ่งผ่านไปมาเกือบตลอดทั้งคืน และติดขัดบ้างในช่วงเวลาเร่งด่วน มีความยาวรวมประมาณ 84 กม. โดยแยกจากถนนสุขสวัสดิ์ ในเขตจอมทอง และตัดผ่านพื้นที่เขตบางขุนเทียน ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดสมุทรสงคราม แล้วไปสิ้นสุดที่ถนนเพชรเกษมบริเวณแยกต่างระดับวังมะนาว จังหวัดราชบุรี นอกจากนี้บนเส้นพระรามสองเองยังมีจุดขึ้นลงทางด่วนที่สำคัญคือ เฉลิมมหานคร และกาญจนาภิเษกหรือมอเตอร์เวย์ สามารถเดินทางเข้าหรือออกเมืองได้ และตัวโครงการบ้านกลางเมืองนี้ก็อยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นลงครับ หรือจะออกต่างจังหวัดไปเพชรบุรี ชะอำ หัวหิน ก็ง่ายและสะดวกวิ่งตรงอย่างเดียว

สถานที่สำคัญใกล้เคียงโครงการมี รพ.บางปะกอก 9, ร.พ.บางมด, รพ.นครธน ในระยะห่างจากโครงการไม่เกิน 5 กม. เกิดอุบัติเหตุอะไรก็อุ่นใจได้ในระดับหนึ่งครับ ใกล้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ใกล้สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม, สำนักงานเขตบางขุนเทียน, สำนักงานที่ดินบางขุนเทียน ใครที่ทำงานที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะครับ นอกจากนี้เรื่องความอุดมสมบูรณ์ในซอยโครงการส่วนใหญ่เป็นหอพัก และบ้านพักอาศัย แหล่งอาหารจึงมีให้เลือกพอสมควร ตามทางเข้าโครงการ มีทั้งร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ หรือออกมาปากซอยก็เป็นเซ็นทรัล พระราม 2 ใกล้เคียงมี Big C พระราม 2, Big C บางบอน, Big C บางปะกอก, Homepro

ส่วนกลางของโครงการนี้มีสวนหย่อมมาให้พร้อมซุ้มไว้นั่งเล่นกลางสวน รอบๆมีสนามหญ้าให้ลูกบ้านสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้

แบบบ้านใหม่ของ AP ภายใต้โมเดล X-TREND เพิ่มคุณค่าทุกตารางนิ้วในบ้าน บนเนื้อที่ดิน 40 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 222 ตร.ม. หน้ากว้าง 11 เมตร 3 ชั้น 4 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ, 1 พื้นที่อเนกประสงค์ พร้อมที่จอดรถถึง 3 คัน โดยทั้งโครงการเป็นบ้านแฝดทั้งหมดครับ ผนังเชื่อมกันตรงส่วนห้องนอนชั้นล่าง ห้องน้ำ และห้องครัว ซึ่งเชื่อมกันแค่ชั้น 1 ชั้นเดียวครับ ชั้น 2 และ 3 จะแยกออกจากกันทำให้ได้อารมณ์แบบบ้านเดี่ยว หน้าตาภายนอกใช้โทนสีเบจ และครีม ความพิเศษนอกจากจะเป็นแบบบ้านใหม่แล้ว โครงการนี้ยังเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้าน โดยทั้งโครงการมีเพียง 50 ยูนิตเท่านั้น ใครที่กำลังมองหาบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ ไม่เน้นส่วนกลาง และสวนรอบบ้าน ต้องการทำเลที่เดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวกโครงการ บ้านกลางเมือง พระราม 2 ก็เป็นตัวเลือกที่ดีอีกโครงการครับ

สุดท้าย ผมของฝากเรื่องความคุ้มค่ากับราคาที่เสียไป แลกกับของที่ได้มา บางคนอาจจะตัดสินใจซื้อด้วยความชอบส่วนตัว, อาจจะหลงไหลในแบรนด์นั้น หรือบางคนอาจจะต้องใช้ปัจจัยหลายอย่างที่กล่าวมาข้างต้นในการเลือกซื้อบ้านแต่ละโครงการเพื่ออยู่อาศัย และให้คุณภาพชีวิตของคุณดีขึ้นกว่าเดิม เพราะราคาบ้านตอนนี้เรียกได้ว่าโดดขึ้นไปพอสมควรครับทำเลดีๆเข้าเมืองสะดวกแต่ราคาสูง ในทางกลับกันถ้าออกไปแถบชานเมืองหน่อยอาจจะได้ขนาดที่ใหญ่กว่าในราคาที่เท่ากัน แต่ก็ต้องแลกกับเวลาการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ไม่สะดวกเท่าในเมือง หรือใกล้เมืองมากกว่า

ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับความพึงพอใจในแต่ละคนว่าจะยอมจ่ายในราคาไหน และชอบทำเลไหนมากกว่าครับ เพราะถ้าคุณชอบของที่คุณซื้อมาแน่นอนครับถึงแม้จะมีจุดด้อยคุณก็จะมองข้ามมันไป แต่คุณก็จะมีความสุขกับสิ่งที่ชอบไม่ใช่หรอครับ…

AP ไม่รอช้า ส่งแคมเปญ “FINAL CALL” กระตุ้นกำลังซื้อ ลดมากสุดในรอบปีสูงสุด 4 ล้านบาท

เอพีเชื่อไตรมาสสุดท้ายตลาดแข่งดุ เดินหน้าฉีดยากระตุ้นกำลังซื้อช่วงโค้งสุดท้ายของปี ส่งแคมเปญ FINAL CALL ราคาสุดท้ายจากเอพี ลดมากที่สุดครั้งแรกและครั้งเดียวเท่านั้นกับ บ้านเดี่ยว คอนโด ทาวน์เฮ้าส์กว่า 50 ทำเลทั่วกรุงเทพลดสูงสุดถึง 4 ล้านบาท เริ่มที่งานมหกรรมบ้านและ คอนโดครั้งที่ 33 นี้ และพร้อมกันทุกสำนักงานขายกว่า 50 โครงการทั่วกรุงเทพ 10-18 ตุลาคมนี้เท่านั้น

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เชื่อว่าในไตรมาสสุดท้ายนี้จะเห็นภาพการแข่งขันที่ดุเดือด โดยเฉพาะจากผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เร่งทำแคมเปญทางการตลาดออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อในช่วงโค้งสุดท้ายของปี สำหรับเอพีแล้วทุกโครงการในเครือเอพี พร้อมนำเสนอแพ็คเกจราคาสุดพิเศษกับแคมเปญ FINAL CALL ราคาสุดท้ายจากเอพี ซึ่งเป็นการนำสินค้าบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์และคอนโดมิเนียมกว่า 50 ทำเล

มาทำราคาพิเศษสุดๆ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ผู้บริโภคจะได้เลือกซื้อที่อยู่อาศัยจากเอพีในราคาที่ถูกและคุ้มค่ามากที่สุดในรอบปี ซึ่งลดสูงสุดมากถึง 4 ล้านบาท ณ สำนักงานขายทุกโครงการ ตั้งแต่วันที่ 10-18 ตุลาคมนี้เท่านั้น และพิเศษเฉพาะในงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 33 ที่กำลังจะเริ่มเป็นวันแรกในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ บริษัทฯ ยังได้นำคอนโดมิเนียมและทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นแบรนด์พลีโน่ไปนำเสนอในงาน พร้อมมอบโปรโมชั่นเดียวกับแคมเปญ FINAL CALL อีกด้วย

 สำหรับรายละเอียดของแคมเปญ FINAL CALL ราคาสุดท้ายจากเอพีประกอบด้วย

1) บ้านเดี่ยว แบรนด์ CENTRO MIND THE CITY บ้านพร้อมอยู่ใน 11 ทำเล ส่วนลดเริ่มต้นตั้งแต่ 400,000 ถึงลดสูดสุด 2.2 ล้านบาท เริ่มต้น 4.59 ล้านบาท

2) ลักชั่วรี่ทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น แบรนด์บ้านกลางเมือง 16 ทำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้า ลดสูงสุด 2 ล้านบาท เริ่มต้น 3.59 ล้านบาท และโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น District ศรีวรา ราคาสุดท้าย 22.90 ล้านบาท ลดมากถึง 4 ล้านบาท และทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นแบรนด์พลีโน่ใน 9 ทำเลกับส่วนลดสูงสุด 400,000 บาท เริ่มต้น 1.79 ล้านบาท

3) คอนโดมิเนียม แบรนด์ RHYTHM LIFE Aspire ใน 15 ทำเล ส่วนลดสูงสุด 1.04 ล้านบาท เริ่มต้น 1.59 ล้านบาท

นอกจากนั้น ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด บริษัทฯ ยังได้นำคอนโดมิเนียมและ ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นแบรนด์พลีโน่ไปนำเสนอในงาน พร้อมมอบโปรโมชั่นเดียวกับแคมเปญ FINAL CALL อีกด้วย ประกอบไปด้วยคอนโดมิเนียม แบรนด์ Aspire ใน 8 ทำเล

เช่น สุขุมวิท 48 งามวงศ์วาน สาทร-ตากสิน รัชดา- วงศ์สว่าง สาทร- ท่าพระ วุฒากาศ ลาดพร้าว 113 และรัตนาธิเบศร์ และ LIFE รัชดาภิเษก คอนโด 2 ห้องนอนพร้อมอยู่ ราคาสุดท้าย 6.59 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นแบรนด์พลีโน่ใน 9 ทำเล อย่าง พระราม 5-ปิ่นเกล้า รัตนาธิเบศร์-ชัยพฤกษ์ วงแหวน-รามอินทรา ศรีนครินทร์ พหลโยธิน- สายไหม ติวานนท์-แจ้งวัฒนะ ปิ่นเกล้า-วงแหวน เพชรเกษม 81 และสุขสวัสดิ์ 66

พร้อมถือโอกาสแนะนำ 4 โครงการใหม่ ได้แก่ พลีโน่ สุขสวัสดิ์ พลีโน่ สุขสวัสดิ์-พระราม 3 พลีโน่ ราชพฤกษ์-พระราม 5 และพลีโน่ ราชพฤกษ์-ท่าน้ำนนท์

สำหรับยอดขายรวม 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้มากถึง 22,314 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นสูงถึง 28% หากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มียอดขาย 17,490 ล้านบาท ซึ่งมาจากการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 16 โครงการ และโครงการที่อยู่ระหว่าง การขายกว่าอีก 60 โครงการ

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 บริษัทฯ ยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ อีก 5 โครงการ มูลค่ารวม 5,330 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการพัฒนาคอนโดมิเนียมจำนวน 1 โครงการ มูลค่าประมาณ 3,100 ล้านบาท และโครงการแนวราบอีก 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 2,230 ล้านบาท

บ้านเดี่ยว เดอะ ซิตี้ พหลโยธิน-สายไหม The City Paholyothin-Saimai

AP เตรียมเปิดตัวโครงการ The City พหลโยธิน-สายไหม บ้านเดี่ยวติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า ที่นี่…ตอบทุกความต้องการ บ้านหลังใหญ่ 5 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 6.89 ล้านบาท* เร็ว ๆ นี้

แผนที่โครงการ

ติดริมถนนสายไหม แขวงสายไหม เขตสายไหม กทม. 10220

คลิก ที่รูปเพื่อดูแผนที่โครงการขนาดใหญ่

ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้แล้วที่นี่ คลิก

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 

TEL : 1623, 0-2261-2518

WEBSITE : http://www.apthai.com/

บ้านเดี่ยว เดอะ ซิตี้ ราชพฤกษ์ The City Ratchaphruek

AP เตรียมเปิดตัวโครงการ The City ราชพฤกษ์ บ้านเดี่ยวติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า ที่นี่…ตอบทุกความต้องการ บ้านหลังใหญ่ 5 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 6.89 ล้านบาท* เร็ว ๆ นี้

แผนที่โครงการ

ติดริมถนนบางกรวย-ไทรน้อย อ.บางกรวย จ.นนทุบรี

คลิก ที่รูปเพื่อดูแผนที่โครงการขนาดใหญ่

ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้แล้วที่นี่ คลิก

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 

TEL : 1623, 0-2261-2518

WEBSITE : http://www.apthai.com/

พาชมบูธ AP ส่งโปร Final Call ลด 50 โครงการ ทำเลทั่วกทม. ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 33

AP จัดแคมเปญ FINAL CALL ราคาสุดท้ายจากเอพี เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อในช่วงโค้งสุดท้ายของปีด้วยการมอบส่วนลดในทุกโครงการกว่า 50 ทำเลทั่วกทม. ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม สูงสุดถึง 4 ล้านบาทถือเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวเท่านั้น ที่ผู้บริโภคจะได้เลือกซื้อที่อยู่อาศัยจากเอพี ในราคาที่ถูกและคุ้มค่ามากที่สุดในรอบปี เริ่มแล้ววันนี้ที่งานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 33 และที่สำนักงานขายโครงการเอพีทั่วกทม.

ทางทีมงาน Homenayoo ไม่พลาดที่จะพาชมบรรยากาศงานค่ะ ตามมาเลย

ยินดีต้อนรับค่า

มารับโบชัวร์ โครงการที่สนใจได้จากพริตตี้สาวสวยเลยยยย

มีผู้ที่สนใจโครงการ คอนโดติดรถไฟฟ้า รวมถึง บ้านเดี่ยว และ ทาวน์โฮมจาก AP เป็นจำนวนมาก

นอกจากคอนโดติดรถไฟฟ้า คอนโดใกล้รถไฟฟ้าแล้ว ทาง AP ยังส่ง ทาวน์โฮม และ บ้าน แบรนด์ พลีโน่ มาเข้าร่วมด้วย

Existing Project! สนใจโครงการไหน มาเลือกกันได้เลย

HOT DEAL โครงการแบรนด์ พลีโน่ ราคาเริ่มต้นมีตั้งแต่ 1.79 – 4.59 ล้านบาท

New Project ส่งท้ายปีนี้ กับแบรนด์ พลีโน่ 3 โครงการใหม่ ใกล้รถไฟฟ้า-ทางด่วน และ ห้างสรรพสินค้า

– พลีโน่ ราชพฤกษ์-ท่าน้ำนนท์ บ้านใกล้รถไฟฟ้า เริ่ม 4.69 ล้านบาท

– พลีโน่ สุขสวัสดิ์ เริ่ม 4.49 ล้านบาท

– พลีโน่ สุขสวัสดิ์-พระราม 3 เริ่ม 2.59 ล้านบาท

โซนคอนโด พบกับ 10 คอนโดใกล้รถไฟฟ้า ราคาพิเศษ เริ่มต้นเพียง 1.59 ล้านบาท  ฟรีทุกค่าใช้จ่ายด้วยนะ

Hot Deal Ready To Move In

♦ พบกับคอนโดติดรถไฟฟ้าพร้อมอยู่ อาทิ

– แอสปาย สุขุมวิท 48

– แอสปาย รัตนาธิเบศร์

– แอสปาย สาทร-ตากสิน

– ไลฟ์ รัชดาภิเษก

♦ คอนโดติดรถไฟฟ้า ข้อเสนอที่ดีที่สุด

– แอสปาย รัชดา-วงศ์สว่าง

– แอสปาย สาทร-ท่าพระ

– แอสปาย วุฒากาศ

– แอสปาย งามวงศ์วาน

– แอสปาย ลาดพร้าว 113

Aspire สาทร-ตากสิน Timber Zone คอนโดใกล้ BTS วุฒากาศ ตกแต่งครบพร้อมอยู่แล้วนะคะ ราคาสุดท้ายเพียง 1.85 ล้านบาท

Life รัชดาภิเษก คอนโดแต่งครบพร้อมอยู่ ใกล้ MRT พร้อมสระว่ายน้ำ ฟิตเนส บนชั้นดาฟ้า 2 ห้องนอน ราคาสุดท้าย 6.59 ล้านบาท

แอสปาย สุขุมวิท 48 คอนโดพร้อมอยู่ คุ้มค่าที่สุดบนถนนสุขุมวิท เพียง 3 สถานีถึง Emquartier 2 ห้องนอน ราคาสุดท้าย 3.66 ล้านบาท

แอสปาย รัตนาธิเบศร์  คอนโดวิวแม่น้ำ ใกล้รถไฟฟ้า และ เซ็รทรัลรัตนาธิเบศร์ ราคาสุดท้าย 1.69 ล้านบาท

จบท้ายด้วยบรรยากาศในงาน พบกับข้อเสนอดี ๆ โปรโมชั่นแรงๆจาก AP ได้ที่งานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 33 ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 8 – วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม 2558 ณ บริเวณโซน CG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์